ขอเวลา4เดือนอุดรอยรั่ว-วางยุทธศาสตร์องค์กรฟื้นตัว
วันที่ 22 ก.พ.60 ที่โรงพิมพ์องค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ลาดพร้าวได้มีพิธีรับมอบงานในตำแหน่ง ผอ.องค์การค้าของสกสค. ระหว่าง ดร.พิษณุ ตุลสุข รองปลัด ศธ.ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.สกสค.และปฎิบัติหน้าที่ ผอ.องค์การค้าฯ คนใหม่ และดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) อดีตปฏิบัติหน้าที่ ผอ.องค์การค้าฯ โดยมีผู้บริหาร สกสค. และผู้บริหารองค์การค้าฯ เข้าร่วม
ดร.สุเทพ กล่าวว่า จากการปฏิบัติหน้าที่ ผอ.องค์การค้าฯจนถึงปัจจุบัน 1 ปี 10 เดือน ตนได้พยายามทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ภาพลักษณ์ขององค์การค้าฯ ยังถูกมองในเชิงลบว่าเป็นหน่วยงานที่มีการทุจริต แต่จากการสัมผัสพบว่าองค์การค้าฯ ได้ปฏิบัติตามระเบียบที่ถูกต้อง เพียงแต่อาจจะไม่ใช่ตามระเบียบของทางราชการ เพราะเป็นองค์กรที่ต้องบริหารงานในเชิงธุรกิจ ระเบียบต่างๆ จึงต้องมีความยืดหยุ่นเพื่อเอื้อต่อการทำงาน แต่องค์การค้าฯ ยังมีจุดอ่อนที่ต้องแก้ไข เช่นบุคลากรยังขาดความรู้เรื่องของเทคโนโลยี การพัฒนาธุรกิจใหม่ ๆ เข้ามาเติมเต็มการทำงาน
อย่างไรก็ตาม ตนรู้จัก ดร.พิษณุ ไม่น้อยกว่า 30 ปีเป็นคนตั้งใจทำงาน เป็นนักสู้ที่กล้าคิด เป็นสายบู้ อยู่แนวหน้าต่อสู้เพื่อการศึกษามาตลอด ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาองค์การค้าฯ ได้
ด้าน ดร.พิษณุ กล่าวว่า ได้ศึกษาข้อมูลขององค์การค้าฯ มาพอสมควร โดยเฉพาะปัญหาหนี้สินที่มีอยู่ขณะนี้ประมาณ6,000ล้านบาท และต้องจ่ายดอกเบี้ยประมาณ 30 ล้านบาทต่อเดือน รวมกับเงินเดือนผู้บริหารและพนักงานอีกเดือนละ 45 ล้านบาท ดังนั้นการบริหารในเชิงธุรกิจองค์การค้าฯ ต้องทำกำไรให้ได้เดือนละ 75 ล้านบาทถึงจะอยู่รอด ทั้งนี้ไม่รวมกับหนี้ที่ค้างจ่ายค่าตอบแทนพนักงานตามคำสั่งศาลอีก 1,200 ล้านบาท ดังนั้น อาจต้องมีการปรับกลยุทธการตลาด การผลิตต้องลงทุนต่ำประหยัด แต่ต้องได้คุณภาพ และต้องขายสินค้าให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ได้ต้นทุนกลับมา และที่สำคัญต้องอุดรอยรั่วในองค์การค้าฯ ให้ได้ ต้องหาสาเหตุและตัวแปรที่ทำให้องค์การค้าฯ มีหนี้สินขนาดนี้ หากสามารถอุดรอยรั่วได้ เงินที่หายไปจะกลับมาคืนอีกมาก
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีกลุ่มธุรกิจจำนวนหนึ่งได้เข้ามาคุยกับตน ซึ่งเป็นศูนย์กระจายสินค้า และร้านค้าที่เป็นเครือข่ายขององค์การค้าฯ ที่อยู่ทั่วประเทศ มาหารือแนวทางเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และคาดว่าภายใน 4 เดือนจะสามารถวางระบบและยุทธศาสตร์การทำงานขององค์การค้าฯ ได้อย่างสมบูรณ์
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ