ระบุ สพฐ.ทำความเข้าใจกับโรงเรียนแล้ว-ย้ำประหยัดงบ-ฝึกวินัยนักเรียน
วันที่ 24 เม.ย.60 นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.) ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ทบทวนกรณีที่ศธ.มีนโยบายปรับโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ ในส่วนของหนังสือเรียนฟรี มาเป็นหนังสือยืมเรียน ในปีการศึกษา 2560นี้ เพราะอาจจะทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมเด็กเสียขวัญกำลังใจ และขัดต่อนโยบายเรียนฟรี ว่า ขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับสถานศึกษาถึงแนวทางการดำเนินการยืมหนังสือยืมเรียนแล้ว ซึ่งในวิชาที่ไม่ต้องปรับปรุงเนื้อหาบ่อย หากไม่ชำรุดเสียหายมากก็ให้ใช้ยืมเรียน แต่วิชาที่ต้องมีการปรับปรุงเนื้อหาให้ทันสมัยก็ต้องซื้อทดแทน ไม่ใช่ให้เด็กใช้หนังสือที่มีเนื้อหาเก่า ส่วนกรณีที่เด็กต้องการจดช็อตโน๊ตไว้ในหนังสือนั้นก็ยังทำได้เหมือนเดิม และ ศธ.จะแจกสมุดโน๊ตให้เด็กไว้จดเพิ่มด้วย
“ที่ผ่านมาผมได้มีการสอบถามความคิดเห็นของ ผอ.โรงเรียนหลายแห่ง พบว่าเห็นด้วยกับนโยบายยืมเรียน เพราะแต่ละปีเราใช้งบประมาณในการจัดซื้อหนังสือเรียนกว่า 5,000 ล้านบาท สมมติถ้าปีต่อไปเราซื้อทดแทน 20% ก็จะประหยัดได้ประมาณ 4,000 ล้านบาท 30% ประหยัดได้ 3,000 ล้านบาท และสมมติว่าถ้าเราสามารถประหยัดเงินซื้อหนังสือเรียนได้เกิน 50% ขึ้นไป ก็จะสามารถนำส่วนต่างไปซื้อหนังสือเข้าห้องสมุด และซื้อสื่ออุปกรณ์การเรียนการสอนที่ดีขึ้น ตรงนี้เป็นการให้เด็กได้เรียนฟรี อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนกรณีที่ ภตช. ระบุว่าการยืมเรียนไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการเรียนฟรีฯ ไม่เป็นความจริง เพราะเด็กยังได้หนังสือเรียน หากเสียหายจะมีการซื้อทดแทน เพราะฉะนั้นผมก็ไม่เข้าใจว่า การปรับแนวทางมาใช้หนังสือยืมเรียนเป็นการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างไร”
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวและว่า การยืมหนังสือเรียนเป็นนโยบายสากลที่หลายประเทศใช้อยู่ อาทิ สิงคโปร์ เวียดนาม และสามารถจัดการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพ ที่สำคัญ เป็นการฝึกวินัยให้เด็ก รู้จักรักษาของเพื่อส่งต่อให้รุ่นน้อง
ด้านนายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สพฐ.ได้ส่งแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารจัดการหนังสือเรียนและแบบฝึกหัด ตามโครงสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษา ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ 2560 กำหนดให้สถานศึกษาจัดซื้อหนังสือเป็นของสถานศึกษาและแจกให้นักเรียนทุกคน เป็นหนังสือยืมเรียน ส่วนแบบฝึกหัดให้จัดซื้อทุกคนโดยไม่เรียกคืน
ทั้งนี้ สพฐ.ได้ส่งแนวปฏิบัติดังกล่าวให้ทั้งในระดับสถานศึกษา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) รวมถึงคำแนะนำในการดูแลรักษาหนังสือ อาทิ ระดับสถานศึกษา ให้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการหนังสือยืมเรียน จัดให้มีการลงทะเบียนหนังสือเรียนทุกเล่ม ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ กำหนดให้มีผู้รับผิดชอบในการยืม-คืนหนังสือเรียน เช่น ครูประจำชั้น/หัวหน้าและครูสายชั้น/ครูผู้รับผิดชอบตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ ชี้แจงผู้ปกครองและนักเรียนเกี่ยวกับการยืม-คืน การใช้และการดูแลรักษาหนังสือเรียนและให้นักเรียนลงลายมือชื่อในการยืม-คืน ลงในสมุดทะเบียน กรณีเด็กปฐมวัยให้ผู้ปกครองเป็นผู้ลงลายมือชื่อ
นายการุณ กล่าวต่อว่า สถานศึกษาแจกหนังสือเรียนให้นักเรียนทุกคนก่อนเปิดภาคเรียน หรือวันแรกหรือสัปดาห์แรกของการเปิดภาคเรียน และให้นักเรียนส่งคืนหนังสือเรียน ในวันที่ประกาศผลการสอบ หรือวันสิ้นภาคเรียน หรือสิ้นปีการศึกษา สำหรับนักเรียนชั้น ป.6, ม.3 และ ม.6 ที่ต้องศึกษาต่อสามารถนำหนังสือมาคืนได้หลังจากการสอบดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว หรือให้อยู่ในดุลพินิจของสถานศึกษา
——————–
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ