แต่หลังๆ มานี้ เริ่มได้ยินคำว่า “เด็กไม่ใช่ผ้าขาว” บ่อยขึ้น
ในทางการแพทย์ เด็กแต่ละคนมีพื้นฐานอารมณ์ที่เกิดมาก็แตกต่างกันอยู่แล้ว บางคนอดทนมาก บางคนอดทนน้อย
ขึ้นกับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม
แต่โดยรวมเด็กคนหนึ่งกว่าจะโตเป็นผู้ใหญ่ จากผ้าที่ไม่มีสีหรือสีน้อย ก็ถูกเติมแต่งด้วยสีและลายที่แตกต่างกันไป
ทั้งจาก DNA สิ่งแวดล้อม การเลี้ยงดู
ฉะนั้นทุกคนต้องผ่านเบ้าหลอม
เรื่องที่อยากจะพูดคุยในวันนี้คือ “พลอย-เบญจมาภรณ์ นิวาส” แนวร่วมม็อบสามนิ้ว อดีตสมาชิกกลุ่มนักเรียนเลว และกลุ่มทะลุวัง ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ออกแถลงการณ์ขอแยกทางกับองค์กรและกิจกรรมในชื่อ ทะลุวัง-ThaluWang
ก่อนเข้าเรื่อง อยากพูดถึงชื่อกลุ่มที่เด็กๆ ตั้งขึ้นมาเพื่อการเคลื่อนไหวเรื่องสิทธิ เสรีภาพ ประชาธิปไตย ตามแต่จะนิยามกันครับ
ตั้งชื่อกลุ่มเพื่อให้ตรงประเด็นที่เรียกร้อง กับตั้งเพื่อเอามัน ต่างกันนะครับ
อย่าง “นักเรียนเลว” เข้าใจว่าต้องการสื่อให้เห็นถึงระบบการศึกษาเลว ย่อมผลิตนักเรียนเลวออกมา
ที่จริงระบบการศึกษาไทยพัฒนามาเรื่อยๆ แต่ก็อาจไม่ประสบความสำเร็จไปทุกเรื่อง
ที่ล้าหลังอยู่ก็มี ทันสมัยก็มีเยอะ
และด้วยระบบการศึกษาที่ผ่านมา ไม่ได้ทำให้นักเรียนเลวทุกคน หรือผลิตพลเมืองเลวออกมาทั้งหมด
อย่างน้อยๆ เด็กในกลุ่มนักเรียวเลว ก็เลวแค่บางคนเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นคนดี มีอุดมการณ์ อยากเห็นบ้านเมืองพัฒนามากกว่าที่เป็นอยู่
หรืออย่าง “ทะลุวัง” ก็มีความชัดเจนในตัวมันเองว่าเยาวชนกลุ่มนี้คิดจะทำอะไร
ทีนี้มาดูข้อความที่ “พลอย-เบญจมาภรณ์ นิวาส” โพสต์ในเฟซบุ๊ก
…เราถูกแสวงหาผลประโยชน์การจากออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองและความเป็นเยาวชน ชื่อและผลงานของเรากับเพื่อนนำไปขอทุนเป็นค่าที่อยู่และค่าอาหาร ค่าเดินทาง ให้คนที่อ้างว่าจะดูแลเราเมื่อเราออกจากบ้าน แต่ผลปรากฏว่าเงินทุนตรงนั้นไม่ถูกแบ่งอย่างชัดเจนและไม่ไปถึงสมาชิกบางส่วน
นอกจากนี้ “คนใกล้ชิด” ของบุคคลข้างต้น ก็ยังมาแสวงหาผลประโยชน์กับเราที่ยังเป็นเยาวชนต่อ เขาขูดรีดผลประโยชน์จากเราผ่านการฉวยเอาเรื่องราวของเราในขณะทำกิจกรรมไปเขียนขอทุนเข้าร่วมโครงการ YSEALI อ้างว่าเป็นผู้ที่ให้คำปรึกษาเราด้านกฎหมาย โดยมีผู้ดูแลของเราในตอนนั้นเห็นดีเห็นงามด้วย ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องจริง เขานำเอกสารภาษาอังกฤษมาให้เราเซ็นชื่อ โดยที่ตอนนั้นเราไม่ได้มีทักษะภาษาอังกฤษมากพอที่จะเข้าใจ และเขาอธิบายให้ฟังคร่าวๆ ว่าคืออะไร แต่ด้วยความเป็นเยาวชน เราไม่รู้ตัวว่ามันคือการขูดรีดผลประโยชน์ จนเพื่อนเราเตือนและจะขอช่วยดูเอกสารเต็มๆ อีกที แต่จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้ดู และเราก็ไม่ได้รับรู้ความคืบหน้าอีกเลยว่าเขาได้ไปหรือไม่ ไปตอนไหน หรือได้อะไรบ้างจากการขูดรีดและใช้เรื่องราวของเรา
แถมเราถูกกล่าวหาว่าเป็นความผิดของเราที่หยุดเคลื่อนไหว ทำให้ขอทุนไม่ได้
คือเราออกมาเคลื่อนไหว เราไม่ต้องการเงินเดือน ไม่ได้อยากทำเป็นอาชีพ เราเลยตัดสินใจทำงาน จึงเริ่มขายสติกเกอร์เพื่อเอาเงินไปต่อยอด ไปซื้อไอแพดเพื่อมาทำงานและเรียนต่อยอดไปอีก แต่กลับกลายเป็นว่าเงินที่เราขายของได้กลับถูกเอาไปจนหมด เราขอแค่ไอแพดเครื่องเดียวเอามาวาดรูปขาย เราต้องถูกต่อว่าจนร้องไห้ออกมาถึงจะได้รับอนุญาตให้ซื้อ
คุณค่าภายในเราถูกลดทอน ทำให้ตัวเล็ก ทำให้เราคิดว่าตัวเราอ่อนแอ จนทำให้เพื่อนและคนอื่นๆ ลำบาก เราถูกลดทอนตั้งแต่ตัวตน อัตลักษณ์ทางเพศ ความฝันการเป็นนักวาด นักเขียน อุดมการณ์ของแรงงานสร้างสรรค์ไม่เคยถูกยอมรับ เราบอกว่าไม่อยากทำ NFT มันขายฝันและเรามีจุดยืนชัดเจน แต่พอไม่ทำ หาเงินให้ไม่ได้ ก็โดนด่า โดนโจมตี แม้กระทั่งความเชื่อทางจิตวิญญาณที่เรายึดมั่น
โดนตีตราว่าเป็นคนโง่ ไม่รู้จักโต ใช้ชีวิตเองไม่ได้ จนเรารู้สึกไม่มีค่า มีชีวิตเพียงเพื่อหาเงินเอามาจุนเจือคนที่อ้างว่าจะคอยดูแลเรา จนกระทั่งมีคนที่สามารถเอาเงินมาให้อดีตคนดูแลของเราคนนี้ได้ เราถึงหลุดออกจากความกดดันและแสวงหาผลประโยชน์เหล่านี้ แม้สุดท้ายเราจะถูกปฏิบัติทิ้งๆ ขว้างๆ ก็ตาม
ก็เคยฟีดแบ็กและสะท้อนความรุนแรงที่เขาทำ และที่เขาคนนั้นกำลังเจอ ทั้งจากแฟนของเขา ครอบครัว สังคมนักกิจกรรมที่ทำงาน เราเป็นคนที่ยืนเคียงข้างเสมอตั้งแต่วันที่เขาถูกโจมตี มีปัญหากับคนนั้นคนนี้ แต่สุดท้ายความจริงใจของเราก็เอาชนะอีโก้ของเขาไม่ได้เลย เสียงของเราไม่เคยถูกรับฟังอย่างแท้จริง พูดไปก็เหมือนพูดกับรัฐเผด็จการ โดนด่าและถูก gaslighting ถูกปั่นหัวกลับมา โดนตะโกนด่าใส่เป็นทรอม่าอีก เจอจากพ่อแท้ๆ มาแล้วยังต้องมาเจอความรุนแรงซ้ำๆ
ทุกวันนี้เราก็ยังเจ็บปวด ทรอม่า แต่ก็พยายามยืนขึ้นอยู่ เริ่มกลับมาทำสิ่งที่ชอบได้แล้ว ภูมิใจมากๆ ที่ตอนนั้นเข้มแข็ง ต่อสู้ฟาดฟันจนได้ไอแพดมาวาดรูปและเรียนหนังสือ ได้เขียนนิยายตามที่หวัง และได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระเสียที แม้กระทั่งเมนูก็ยังยินดีที่เราออกสักที
ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้เราและเพื่อนๆ ตัดสินใจขอออกจากองค์กรทะลุวัง ตอนนี้มีสมาชิกทะลุวังตามที่ได้กล่าวอ้างในพื้นที่สาธารณะเท่านั้น เราและเพื่อนคนอื่นๆ ขอไม่ข้องเกี่ยวในนามของทะลุวังอีกต่อไป
แต่เราคงหวาดกลัวประโยคบอกรักและคำว่าครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ไปอีกนาน…
ยาวหน่อยครับ แต่สะท้อนความคิดของเด็กยุคนี้
เรื่องการขอทุนเข้าร่วมโครงการ YSEALI ทำให้เกิดข้อสงสัยเยอะทีเดียวครับ
YSEALI เป็นทุนจากรัฐบาลอเมริกา ชื่อเต็มว่า Young Southeast Asian Leaders Initiative
ข้อมูลจากสถานทูตสหรัฐระบุว่า โครงการ YSEALI ตั้งขึ้นมาเพื่อสร้างเครือข่ายระดับภูมิภาค และพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำในหมู่เยาวชน อาเซียน รัฐบาลสหรัฐ
การเชิญชวนเยาวชนชาวไทยอายุระหว่าง ๑๘-๓๕ ปี ไปลงทะเบียนเป็นสมาชิก
โครงการนี้เปิดตัวมาตั้งแต่ยุคประธานาธิบดีบารัก โอบามา วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้นำรุ่นเยาว์อายุระหว่าง ๑๘-๓๕ ปี จากบรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ ลาว สิงคโปร์ ไทย ติมอร์-เลสเต และเวียดนาม ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์เพื่อมุ่งจัดการกับสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าเป็นความท้าทายสำคัญของภูมิภาคอาเซียนในยุคสมัยของตน ได้แก่ การพัฒนาเศรษฐกิจ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การศึกษา และการมีส่วนร่วมของประชาสังคม ในทุกๆ วัน
และข้อมูลคร่าวๆ เด็กๆ ในกลุ่มทะลุวังได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา
กี่คนไม่ทราบ แต่นี่คือกิจกรรมที่ทำมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๖
ทำมา ๙ ปีแล้ว ไม่ทราบว่ากี่รุ่น และปลูกฝังความคิดเรื่องอะไรบ้าง
แต่เด็กๆ ที่ต่อต้านรัฐบาล ต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ คือเด็กๆ กลุ่มหนึ่งที่รัฐบาลอเมริกาให้การสนับสนุนมาแล้วร่วมทศวรรษ
หน้าฉากไม่มีอะไรมากหรอกครับ พูดถึงเรื่องการพัฒนาประชาธิปไตย
แต่หลังฉาก นักเรียนเลว ทะลุวัง มันก็ตามชื่อนั่นแหละครับ.