ห่วงประวัติศาสตร์ซ้ำรอยซ้ำสอง พิมพ์หนังสือเรียนวิทย์คณิตไม่ทันอีก รอบนี้เตรียมถกบอร์ด 12 ต.ค.หาเจ้าใหม่ ระบุที่ผ่านมาองค์การค้าฯไม่ได้สร้างความมั่นใจให้เลย ทั้งมีปัญหาภายในองค์กรที่งานนี้ทำกระทบเด็กนักเรียนทั่วประเทศเปิดเทอมแต่ไม่มีหนังสือเรียน
ศ.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผอ.สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เปิดเผยว่า ตามที่องค์การค้าฯ ส่งมอบหนังสือให้กับโรงเรียนไม่ทันเวลาเปิดเรียนในวงกว้าง ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการเรียนการสอนทั่วประเทศ บอร์ด สสวท. จึงมีมติในการประชุมวันที่ 13 ก.ค.61 ให้กระจายความเสี่ยงและลดสัดส่วนสิทธิ์ในการพิมพ์ขององค์การค้าฯ เป็น 70% ของต้นฉบับทั้งหมด และ ให้สิทธิ์กับสำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 30%
อย่างไรก็ดี ในส่วนขององค์การค้าฯ ซึ่งได้รับสิทธิ์ 70% โดยเฉพาะหลักสูตรเดิมทั้งหมดและหลักสูตรใหม่ระดับประถมศึกษาไม่มีการตอบรับ เตรียมการ หรือดำเนินการใดๆ เมื่อเห็นว่าเวลาได้ล่วงเลยไปมากจนน่าเป็นห่วง ในช่วงปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา สสวท. จึงทำหนังสือขอให้องค์การค้าฯ ยืนยันการรับสิทธิ์ภายในวันที่ 5 ต.ค.61 แต่ได้รับการตอบกลับว่า องค์การค้าฯ ต้องรอมติบอร์ด สกสค. ก่อน ประกอบกับ สสวท. ได้รับทราบปัญหาภายในขององค์การค้าฯ ผ่านสื่อทำให้ สสวท. ขาดความมั่นใจ จึงต้องเตรียมเสนอ บอร์ด สสวท. เพื่อพิจารณาผู้รับอนุญาตรายอื่นที่สามารถผลิตและส่งหนังสือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในวันศุกร์ที่ 12 ต.ค.61 หากเสนอบอร์ด สสวท. ไม่ทันจะทำให้นักเรียนทั้งประเทศสุ่มเสี่ยงที่จะไม่มีหนังสือเรียนทันใช้เมื่อเปิดภาคเรียนปี 62ที่ใกล้จะถึงนี้
ศ.ชูกิจ กล่าวว่า สิทธิ์ในการให้พิมพ์หนังสือที่ สสวท. จัดทำต้นฉบับนั้น เป็นของ สสวท.ซึ่งยึดผลประโยชน์ของนักเรียนและครูไทยเป็นหลักมาตลอด สสวท. มีพันธกิจในการทำให้การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทยมีประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นไปอย่างราบรื่น สอดคล้องนโยบายประเทศที่มุ่งใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศไทยในยุค 4.0 ซึ่ง สสวท. ได้ผลิตต้นฉบับหนังสือเรียนที่มีคุณภาพแล้ว แต่หากหนังสือเรียนไม่ถึงมือนักเรียนทันใช้ก่อนเปิดภาคเรียน จะนำไปสู่ปัญหาการเรียนการสอนที่ขาดทิศทาง ไม่มีลำดับ และใช้กระบวนการที่ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดปัญหาในระยะยาว กระทบกับคุณภาพการศึกษาของประเทศ
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ