เปิดผลสำรวจ “เด็กจบใหม่” ยุค 2021 อยากร่วมงานกับบริษัทเอกชนและ “องค์กรระดับโลก” จำนวนมาก โดยปัจจัยในการเลือกองค์กรที่อยากทำงานด้วยคือ การยอมรับความแตกต่างของบุคคล 77% มีโอกาสการก้าวหน้าในสายงาน 75% และถูกใจแนวคิดของผู้บริหาร 73%
เปิดผลสำรวจ “เด็กจบใหม่” ยุค 2021 อยากร่วมงานกับบริษัทเอกชนและ “องค์กรระดับโลก” จำนวนมาก โดยปัจจัยในการเลือกองค์กรที่อยากทำงานด้วยคือ การยอมรับความแตกต่างของบุคคล 77% มีโอกาสการก้าวหน้าในสายงาน 75% และถูกใจแนวคิดของผู้บริหาร 73%
เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา สภาพัฒน์ (สศช.) ได้นำเสนอรายงาน “ภาวะสังคมไทยไตรมาส 2/2564” เอาไว้หลายประเด็น แต่หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจคือ ภาวะการว่างงานของ “เด็กจบใหม่” ที่พบว่าปีนี้ อัตราว่างงานเพิ่มขึ้น 10.04% หรือประมาณ 2.9 แสนคนเลยทีเดียว
เมื่อพิจารณาระยะเวลาของการว่างงาน พบว่าผู้ว่างงานมีแนวโน้มว่างงานนานขึ้น คือรองานนานกว่า 12 เดือน อีกทั้ง ผู้จบการศึกษาระดับอาชีวศึกษา พบมีอัตราการว่างงานสูงขึ้น 3.18% ส่วนผู้จบการศึกษาระดับอุดมศึกษา ว่างงานสูงขึ้น 3.44%
แน่นอนว่าปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ “เด็กจบใหม่” ว่างงานเพิ่มขึ้น มาจากผลกระทบของสถานการณ์โรคระบาด “โควิด-19” ที่ทำให้หลายๆ องค์กรต้องรัดเข็มขัด แต่ขณะเดียวกัน ก็อาจจะมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เด็กจบใหม่ยังไม่เข้าสู่ระบบแรงงาน เช่น อาจรองานในองค์กรที่ตนเองสนใจจริงๆ รวมถึงเรื่องฐานเงินเดือน และประโยชน์ที่ได้จากการทำงาน
พอพูดถึงองค์กรที่ “เด็กจบใหม่” สนใจอยากไปสมัครงานแล้ว หลายคนคงอยากรู้ว่าเด็กสมัยนี้ เรียนจบไปแล้วอยากไปทำงานบริษัทไหนกันบ้าง? กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ชวนมาดูผลสำรวจจาก Universum 2021 Thailand ที่เชี่ยวชาญเรื่องการสำรวจกลุ่มบุคคลผู้มีทักษะสูงและนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่มีความสำคัญในการสมัครงาน ได้เปิดเผยถึงรายชื่อองค์กรในไทย ที่เด็กจบใหม่อยากร่วมงานด้วย ดังนี้
1. “เด็กจบใหม่” อยากทำงานองค์กรเอกชน
ผลสำรวจชี้ว่า นักศึกษาไทยส่วนใหญ่ต้องการทำงานในภาคเอกชน โดยเมื่อแบ่งนักศึกษาจบใหม่ออกเป็น 2 สายงาน พบว่า
- เด็กจบใหม่ สายธุรกิจ/พาณิชย์ อยากทำงานในบริษัทเอกชนมากถึง 88% และ ต้องการทำงานในองค์กรระดับโลก 73%
- เด็กจบใหม่ สายวิศวกรรมศาสตร์ อยากทำงานในบริษัทเอกชน 84% และ ต้องการทำงานในองค์กรระดับโลก 74%
2. ปัจจัยในการเลือกองค์กรที่อยากร่วมงาน
ประเด็นต่อมาที่น่าสนใจ คือ มีการสำรวจพบว่า ปัจจัยที่กลุ่มเด็กจบใหม่นำมาพิจารณาเลือกองค์กรที่อยากร่วมงานด้วยนั้น นอกจากเรื่องฐานเงินเดือนสูงและความมั่นคงแล้ว ยังมีปัจจัยเสริมอื่นๆ อีก ได้แก่
- การส่งเสริมความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างของบุคคล 77%
- โอกาสการก้าวหน้าในสายงาน 75%
- ถูกใจกับแนวคิดของผู้บริหารบริษัท 73%
ในประเด็น “เงินเดือนที่คาดหวัง” ผลสำรวจพบว่า เด็กจบใหม่สายธุรกิจ/พาณิชย์ คาดหวังว่าจะมีรายได้ 452,869 บาทต่อปี ส่วนเด็กจบใหม่สายวิศวกรรมศาสตร์ คาดหวังรายได้น้อยกว่า อยู่ที่ 434,663 บาทต่อปี
3. นายจ้างในอุดมคติ
สำหรับองค์กรที่กลุ่มเด็กจบใหม่ให้การยอมรับมากที่สุด และถือเป็นนายจ้างในอุดมคติของพวกเขา ได้แก่
- อันดับ 1 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)(PTT)
- อันดับ 2 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
- อันดับ 3 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
4. องค์กรสาขาธุรกิจ/พาณิชย์ ที่เด็กจบใหม่สนใจมากที่สุด
- อันดับ 1 บริษัท กูเกิล ประเทศไทย (Google)
- อันดับ 2 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
- อันดับ 3 บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)
- อันดับ 4 บริษัท คิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
- อันดับ 5 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)(PTT)
5. องค์กรสาขาวิศวกรรมศาสตร์ ที่เด็กจบใหม่สนใจมากที่สุด
- อันดับ 1 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)(PTT)
- อันดับ 2 บริษัท กูเกิล ประเทศไทย (Google)
- อันดับ 3 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
- อันดับ 4 บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)(SCG)
- อันดับ 5 บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด
6. สายงาน “ไอที” ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมีผลสำรวจจาก ManpowerGroup ระบุว่า สายงานด้าน “ไอที” ก็เป็นอีกหนึ่งสายงานที่มาแรงในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา เพราะในยุคนี้หลายบริษัทต้องการผู้เชี่ยวชาญในด้านปัญญาประดิษฐ์ (A.I.), FinTech, Digital Payment, Cloud System, Big Data, Blockchain, Cybersecurity และ Internet of Things (IoT) ฯลฯ มาร่วมงานด้วย
สอดคล้องกับ World Economic Forum (WEF) ที่ระบุว่า ภายในปี 2565 เครื่องจักรและ AI จะเริ่มเข้ามามีบทบาทแทนมนุษย์ในองค์กรต่างๆ และทำให้พนักงานจำนวนถึง 75 ล้านคนทั่วโลกต้องตกงาน
อีกทั้ง ภายในปี 2568 เครื่องจักรและ AI จะขยายอัตราการทำงานมากขึ้น และเข้ามาทดแทนตำแหน่งงานที่ทำโดยมนุษย์มากขึ้นอีกถึง 71% ทำให้เกิดตำแหน่งงานใหม่ๆ อีก 133 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าสายอาชีพด้าน “โรโบติกส์ (Robotics)” จะเป็นที่นิยมของตลาดแรงงานมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น งานด้านการทำงานของมนุษย์ร่วมกับหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ, งานติดตั้งหุ่นยนต์ให้กับโรงงานใหม่, งานปรับปรุงระบบให้โรงงานเก่า โดยการเปลี่ยนงานของสายอาชีพนี้แต่ละครั้ง รายได้จะเพิ่มขึ้นถึง 20-25%
—————————-
อ้างอิง :
universumglobal
nesdc.go.th
scb.co.th
destinationthailandnews