ดาวพงษ์ ติดตามความคืบหน้าศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงฯ 7,424 ตำบล เตรียมประเมินศักยภาพพัฒนาครูผู้สอน
วันที่ 3 พ.ย.59 พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามแผนการดำเนินงานปีงบประมาณ 2560 ของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ว่า จากการฟังรายงานกรอบการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2560 และรายงานความคืบหน้าโครงการต่างๆ ของ กศน. อาทิ ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบล 7,424 แห่ง ซึ่งตนอยากให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากศูนย์นี้จริง ๆ จึงขอให้กศน.กลับไปทำรายละเอียดของทุกตำบล ว่าผลการดำเนินการเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อให้รู้ว่าศูนย์ไหนประสบความสำเร็จ ศูนย์ไหนต้องปรับปรุง โดย กศน.รับปากจะส่งข้อมูลภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้และต้องประสานงานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตรด้วย
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้ติดตามแผนการพัฒนาครู กศน.ที่ว่างเว้นมานาน โดยเร็วๆ นี้สำนักงาน กศน.จะประเมินความต้องการความจำเป็นในการพัฒนาครู กศน.หรือ ตรวจเลือดครู กศน. เพื่อทำการพัฒนาร่วม กับครูสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งตนได้มอบหมายให้สำนักงาน กศน.วางแผนพัฒนาบุคลากรล่วงหน้าระยะ 10 ปีด้วย และยังมอบให้ สำนักงาน กศน.ไปจัดทำแผนการใช้ประโยชน์จากโรงเรียนขนาดเล็กที่ควบรวมกับโรงเรียนแม่เหล็ก โดยระยะแรกในวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา มีการควบรวมโรงเรียนจำนวน 286 แห่ง ก็ให้ไปดูว่าสถานที่ของโรงเรียนที่ว่างลงนั้นจะขอไปใช้ประโยชน์อะไรบ้าง เพื่อจะได้เสนอคำขอให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ก็ยังยืนยันว่าหากมีชาวบ้านไม่เห็นด้วยกับการย้ายโรงเรียนตนก็จะไม่ย้าย
พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ตนยังให้ความสำคัญกับห้องสมุดประชาชน 913 แห่ง และบ้านหนังสือชุมชน 15,146 แห่ง โดยเน้นย้ำให้ กศน.ไปสร้างกิจกรรมให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการ ตลอดจนผู้บริหาร กศน.ในพื้นที่ที่มีบ้านหนังสือชุมชนตั้งอยู่ ควรสำรวจด้วยว่า ในพื้นที่ของตนเองมีคนไม่รู้หนังสืออยู่มากน้อยแค่ไหน และดำเนินการกิจกรรมพัฒนาเป็นจุดๆ มีเป้าหมายชัดเจนว่าควรต้องพัฒนาในด้านใด โดยเน้นไปที่ชาวบ้านที่อยู่นอกระบบการศึกษาและสอดแทรกข้อเท็จจริงที่ชาวบ้านควรจะรู้ไปด้วย จะได้ไม่หลงเชื่อข้อมูลทางโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ส่งต่อ ๆ กันมา นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำด้วยว่าปรัชญาและหน้าที่ของ กศน.มี 3 อย่างคือ 1.ให้คนรู้หนังสือ 2.ให้ประชาชนเป็นพลเมืองดี และ 3.ให้มีอาชีพ แต่กิจกรรมของกศน.ที่ออกมาจะให้น้ำหนักเรื่องของให้คนรู้หนังสือกับมีอาชีพ แต่เรื่องคนดียังหายไป ดังนั้น จึงต้องเพิ่มน้ำหนักเรื่องนี้ด้วย
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ