ตลอดช่วงเดือนเม.ย.นี้ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) มีโอกาสยลโฉมดอกซากุระที่เริ่มบานสะพรั่ง หลังจากรอคอยมากว่า 2 ปี ที่ลงมือปลูก ในระยะแรกกว่า 1 หมื่นต้น ภายใต้โครงการสวนซากุระเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุครบ 5 รอบ เมื่อปี 2558 บนพื้นที่ประมาณ 300 ไร่ ครอบคลุม 7 ยอดดอย
โดยปีนี้ในพื้นที่ปลูกซากุระสีชมพูสายพันธุ์ยูนนาน (Yunnan Cherry Blossom) จากประเทศจีน ได้เริ่มทยอยออกดอกแล้วกว่า 200 ต้น คาดว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะสามารถเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดเชียงรายได้ นอกจากนี้ยังมีซากุระสายพันธุ์อื่นๆ กว่า 19 สายพันธุ์ได้เริ่มออกดอกมาให้นักพฤกษศาสตร์และผู้ดูแลโครงการฯ ได้เข้าเก็บข้อมูลเพื่อศึกษาและขยายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง และเตรียมพัฒนาเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมได้ในอนาคตอันใกล้
รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดี มฟล. เปิดเผยว่า มฟล.ได้ศึกษาและค้นหาสายพันธุ์ที่สามารถเติบโตได้ดีในพื้นที่ มีทั้งสายพันธุ์ในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นไทย จีน เกาหลี หรือญี่ปุ่น ทั้งยังได้ประสานขอสายพันธุ์ที่เหมาะสมไปยังประเทศต่างๆ อีกหลายแห่ง โดยซากุระที่นำลงปลูกในพื้นที่ แต่ละสายพันธุ์จะผลิดอกในระยะเวลาต่างๆ ต่อเนื่องกัน ตั้งแต่เดือน พ.ย. จนถึง เม.ย.ของทุกปี
สายพันธุ์ซากุระที่นำเข้ามาปลูก เช่น Wild Himalayan Cherry Blossom หรือ นางพญาเสือโคร่ง, Yunnan Cherry Blossom ซากุระสายพันธุ์ของประเทศจีน, Yoshino ซากุระสายพันธุ์ของญี่ปุ่น และซากุระสายพันธุ์จากประเทศเกาหลี เป็นต้น
…มหาวิทยาลัยหวังที่จะให้สวนซากุระแห่งนี้เป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติแก่ประชาชน ให้มีโอกาสได้สัมผัสความงามของธรรมชาตินำไปสู่การอนุรักษ์และรักษาธรรมชาติต่อไป รวมถึงยังหวังเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้กับจังหวัดเชียงราย เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ให้เติบโตต่อไป
โครงการสวนซากุระเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุครบ 5 รอบ ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2558 บนพื้นที่กว่า 300 ไร่ ของสวนพฤกษศาสตร์ มฟล. เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดเชียงราย รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยสวนซากุระขนาดใหญ่ของ มฟล.จะกลายเป็นแลนมาร์คสำคัญที่นักท่องเที่ยว ทั้งในประเทศและต่างประเทศต้องการมาเยือนในอนาคต
** ขอบคุณข้อมูลจาก ม.แม่ฟ้าหลวง
———————–
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ