สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ และภาคีเครือข่าย คัดเลือก “โรงเรียนบ้านคลองแขยง จังหวัดกำแพงเพชร” ในโครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต เป็นแหล่งเรียนรู้ต้นแบบทางด้านการผลิตอาหารและโภชนาการของโรงเรียนแบบมีส่วนร่วมกับชุมชน ใช้ QR code ถ่ายทอดองค์ความรู้
นายทรงวุฒิ มลิวัลย์ รองผู้อำนวยการกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา สพฐ. กล่าวว่า โรงเรียนบ้านคลองแขยง ได้เข้าร่วม “โครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต” เป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่ “จิ๋วแต่แจ๋ว” ด้วยจำนวนนักเรียนเพียง 50 คน แต่มีความพร้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ต้นแบบทางด้านการผลิตอาหารและโภชนาการของโรงเรียนแบบมีส่วนร่วมกับชุมชน มีศักยภาพในการบริหารจัดการการผลิตอาหารและโภชนาการเอง นอกจากนี้ โรงเรียนนำระบบ Thai School Lunch หรือ ระบบแนะนำสำรับอาหารกลางวันสำหรับโรงเรียนมาใช้จนเกิดผลสัมฤทธิ์ คือ ภาวะโภชนาการของเด็กนักเรียนดีขึ้น โดยในปี 2561 ไม่มีนักเรียนที่ประสบปัญหาภาวะโภชนาการขาด (ผอมและเตี้ย) ส่วนนักเรียนที่มีภาวะโภชนาการเกิน (อ้วน เริ่มอ้วน) มีจำนวนลดลงจาก 7 คน เหลือเพียง 4 คน
ด้าน นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ ร่วมกับ สพฐ. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) คัดเลือกโรงเรียนที่มีศักยภาพในโครงการ “ซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต” เพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบด้านการผลิตอาหารและโภชนาการของโรงเรียนและชุมชน โดยมีเกณฑ์พิจารณา 5 ด้าน ประกอบด้วย 1.ด้านการบริหารจัดการ 2.ด้านการผลิตอาหาร 3.ด้านโภชนาการ 4.ด้านสุขภาพ และ5.ด้านขีดความสามารถการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องยั่งยืน ซี่งในปี 2560 มีโรงเรียนที่ได้รับการคัดเลือก 2 โรงเรียน คือ 1.โรงเรียนบ้านคลองแขยง จังหวัดกำแพงเพชร และ2.โรงเรียนบ้านใหม่สำโรง จังหวัดนครราชสีมา
นายธิติ วัชรภัทร ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคลองแขยง กล่าวว่า ปัจจัยแห่งความสำเร็จที่ทำให้โรงเรียนฯ ได้รับเลือกเป็นแหล่งเรียนรู้ เกิดจากกระบวนการมีส่วนร่วมของครูและนักเรียน ที่ร่วมกันในกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และต่อยอด มีการถ่ายทอดความรู้ระหว่างโรงเรียนและชุมชน ขณะที่โรงเรียนได้รับการสนับสนุนจากซีพีเอฟเข้ามาให้คำแนะนำและช่วยเหลือด้วยการนำเทคโนโลยี QR code สร้างสื่อการเรียนของแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลได้สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งโรงเรียน ได้จัดกิจกรรมแหล่งเรียนรู้ 8 ฐานการเรียนรู้ ประกอบด้วย 1.แหล่งเรียนรู้ ผ.ผักสวนครัว ทำแปลงปลูกผักสวนครัว 2.แหล่งเรียนรู้ อ.อุโมงค์ผัก 3.แหล่งเรียนรู้ ข.ขยะขายได้ 4.แหล่งเรียนรู้ บ.บ้านอัญชัน ทำอัญชันแห้งด้วยตู้อบพลังแสงอาทิตย์ 5.แหล่งเรียนรู้ ป.ปลาตากลม เลี้ยงปลาสวยงาม ทั้งปลาสอดและปลาหางนกยูง 6.แหล่งเรียนรู้ ร.เรือน กิจกรรมเพาะเห็ดนางฟ้า 7.แหล่งเรียนรู้ น.น้ำหมักชีวภาพ ทำน้ำหมักชีวภาพจากหน่อกล้วยและมะกรูด และ8.แหล่งเรียนรู้ บ.ใบไม้ทับถม
ขณะที่ เด็กหญิงพิมพ์ชนก โพธิ์ศรี อายุ 12 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเป็นรองประธานนักเรียนและมัคคุเทศก์โรงเรียนบ้านคลองแขยง กล่าวว่า โรงเรียนจัดแหล่งเรียนรู้ให้นักเรียนเรียนรู้และนำไปปฎิบัติ ซึ่งคุณครูมอบหมายให้ พี่ๆชั้นป.5 และ ป.6 คอยดูแลและสอนน้องทำกิจกรรมใน 8 ฐานการเรียนรู้ นักเรียนนำประสบการณ์เรียนรู้จากโรงเรียนไปประยุกต์ใช้ที่บ้าน เช่น ปลูกผักสวนครัว และโรงเรียนยังเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับผู้ที่สนใจ รวมทั้งโรงเรียนอื่นๆ ที่เข้ามาศึกษาดูงานอีกด้วย
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ