จากภูมิปัญญาอันล้ำค่าของบรรพบุรุษไทย ส่งผลให้น้ำอบไทยมากคุณค่ายิ่งกว่าความหอม โดยเฉพาะเคียงคู่กับหน้าร้อน เป็นการดับร้อนแบบไทยๆ ที่อยู่คู่ประเพณีวัฒนธรรมไทยแต่โบราณกระทั่งถึงปัจจุบัน
หลากหลายตำรับน้ำอบไทย หนึ่งในนั้นคือ น้ำอบไทยสวนดุสิต
ดร.กชกร ชำนาญกิตติชัย ผอ.สำนักกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวถึงผลิตภัณฑ์น้ำอบไทยสวนดุสิต ภายใต้แบรนด์ยูนิ (UNI) ว่า ปัจจุบันน้ำอบไทยสวนดุสิตสืบทอดสูตรเฉพาะมาจากอาจารย์ม.ร.ว. สอิ้ง มาศ นวรัตน์ ผู้สืบสานความรู้การผลิตต่อจาก อาจารย์เยื้อน ภาณุทัต ที่มีสายเชื่อมโยงความรู้อย่างถ่องแท้จากในวังหลวง ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของสวนดุสิตในสมัยที่ยังเป็นโรงเรียนการเรือน และเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาความรู้การทำน้ำอบไทย “กลิ่นกระดังงา” ที่เป็นสูตรเฉพาะให้กับนักเรียน ในสมัยนั้นสามารถผลิตใช้ และเป็นวิชาชีพติดตัว ด้วยกลิ่นน้ำอบไทยสูตรกระดังงาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
จนมาถึงช่วงสมัยวิทยาลัยครูสวนดุสิต ตนจึงเป็นผู้รับสืบทอดเคล็ดลับวิชาการผลิตน้ำอบไทยในรุ่นต่อมา และได้ส่งต่อองค์ความรู้ให้ลูกศิษย์อีกหลายรุ่น รวมถึงการผลิตจำหน่ายออกนอกรั้วมหาวิทยาลัยเป็นครั้งแรก ทำให้น้ำอบไทยสวนดุสิตเป็นที่รู้จักกันมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โดย ผศ.โสภาพรรณ อมตะเดชะ หนึ่งในอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเครื่องหอมและน้ำอบไทย ได้สืบสานความรู้อย่างถ่องแท้ รังสรรค์และพัฒนาสูตรน้ำอบไทยกลิ่นใหม่ขึ้นมา ให้มีกลิ่นหอมแบบ อ่อนๆที่ปรุงขึ้นจาก “ดอกไม้รวมนานาพันธุ์” อาทิ กุหลาบ มะลิ ดอกแก้ว ราตรี ดอกส้ม ชะลูด ใบเตย หญ้าฝรั่น แก่นจันทร์เทศ พิมเสน กำยาน ชะมดเช็ด ผิวมะกรูด ยังคงกลิ่นของดอกกระดังงาตามสูตรดั้งเดิมไว้เป็นหลัก
น้ำอบไทยสวนดุสิต 1 ขวด มีขบวนการผลิตซับซ้อนและปราณีตตามสมัยโบราณแท้ๆ โดยให้ความสำคัญกับขั้นตอนการผลิต ควรใส่อะไรก่อน-หลัง มีทั้งอบเทียน ร่ำกำยาน จึงได้กลิ่นหอมติดทนนาน ในแบบฉบับสวนดุสิต
นอกจากน้ำอบไทยที่ผลิตมาจำหน่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้ว ในชุดเครื่องหอมไทยยังประกอบไปด้วย ดินสอพองอบร่ำและบุหงา เรียกว่าครบเซ็ตตำรับเครื่องหอมไทย สนใจสามารถสอบถามรายละเอียด ได้ที่สำนักกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โทร.02 -244- 5372-5 หรือ 02 -244 -5559
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ