ศาสตร์ในเรื่องของการเต้น นับเป็นเรื่องของพรแสวงที่เห็นได้ชัด หากเราไม่ฝึกซ้อม ไม่ขวนขวายหาความรู้และประสบการณ์ การเต้นของเราอาจจะเป็นได้เพียงนามธรรมที่จับต้องไม่ได้ และไปไม่ถึงฝั่งฝัน
เช่นเดียวกันกับหนุ่มคนนี้ “ปลื้ม – ปิติ ตระกูลดิษฐ์” นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชา International Relations and Development (IRD) สถาบันการทูตและการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยรังสิต หนึ่งในสมาชิกทีม Urban Squad MegaCrew เจ้าของแชมป์ประเทศไทย จากการแข่งขัน Thailand Hip-Hop Dance Championship เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา
เขาบอกว่าเคยคิดว่าเราเต้นไปเพราะเท่ แต่เมื่อหลวมตัวไปจริงจังแล้ว ถอนตัวไม่ขึ้น
“ปกติการเต้นเรียกได้ว่าเป็นงานอดิเรกของผมเลยครับ เริ่มต้นจากอยากเท่ เต้นฮิปฮอปเท่ สนุก เต้นแบบเก้ๆ กังๆ มาตั้งแต่เรียนประถมครับ เต้นตามบ้าง คิดท่าเต้นเองบ้าง จนเวลาผ่านมาโตมา ผมก็ยังเต้นอยู่ ทำมันมาจนจะเรียกว่าหลงรักการเต้นก็ได้ครับ ชีวิตขาดการเต้นไม่ได้อะไรแบบนี้ครับ
มีเพื่อนๆ หลายคนจะทักเสมอครับ ยืนคุยกันไม่ต้องเต้นก็ได้ เพราะผมเหมือนคนสมาธิสั้นไปแล้ว ยืนๆ อยู่ก็ต้องมีโยกมีเต้น อารมณ์เหมือนคนที่ติดหมากฝรั่งหรือควงปากกาประมาณนั้นครับ ที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดว่าการเต้นของผมจะสามารถไปร่วมทีม หรือแข่งขันอะไรได้ ผมเต้นเพราะผมอิน ผมชอบมาโดยตลอด การเต้นสำหรับการเข้าทีม การประกวด สายนี้จะมีอะไรอีกมากมายที่ต้องเรียนรู้
แต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจอยากจริงจังกับความชอบนี้ จากปกติดูคลิปแล้วเต้นตาม เริ่มมองหาการจัดออดิชั่น ศึกษาเรื่องทีมเต้นต่างๆ ซึ่งการออดิชั่นครั้งแรกเข้าทีม Urban Squad MegaCrew ก็ผ่านไปด้วยดีครับ รุ่นพี่มอบโอกาสและคัดเลือกเราเข้าทีม ถึงเวลาที่ต้องพัฒนาตัวเองอย่างจริงจัง ผมคิดแบบนี้และตั้งใจฝึกซ้อมตลอดเวลา จนเริ่มมีผลงานบ้าง ทั้งการเข้าร่วมการประกวด การแข่งขัน การโชว์ในรายการทีวี และการโชว์แบบงานรับจ้างต่างๆ ครับ
อย่างเช่นล่าสุดได้ไปแข่งรายการทีวีที่มีชื่อว่า World of Dance Thailand ไปแข่งในนามทีม Urstyle Inspire ได้เข้าไปจนถึงรอบ Division Final ครับ อีกการแข่งขันหนึ่งที่เรียกได้ว่าที่สุดเลยตั้งแต่เต้นมาคือการแข่งขัน Thailand Hip-Hop Dance Championship 2017 ได้รับรางวัลที่สาม รุ่น Mega Crew บอกได้เลยว่าผมเตรียมตัวค่อนข้างมากครับ เพราะจะต้องใช้พละกำลังเยอะมากๆ เราจะต้องเต้นให้ถูกท่า ถูกจังหวะ และต้องแข็งแรง ไม่อย่างนั้นจะโดนหักคะแนน
ในการเต้นทีมที่มีสมาชิกมากนั้นจะต้องเจอกับปัญหาเรื่องของการฝึกซ้อมที่ไม่สามารถมากันครบได้ งานนี้จึงต้องยกเครดิตให้กับพี่มาค หัวหน้าทีมที่คอยดูแลการออกแบบท่าเต้นและดูแลพวกเราทุกคนด้วยครับ เราใช้เวลากว่าสามเดือนเพื่อทุ่มเทกับการแข่งขันครั้งนี้ เราเป็นน้องใหม่ของทีมประสบการณ์เราอาจน้อย เราจึงต้องมีสติให้มากที่สุด
หลังจากที่ได้รางวัลมาก็ได้รับสิทธิ์ไปแข่งขันในงาน World Hip-Hop Dance Championship พวกเราก็คว้ารางวัลลำดับที่ 43 ของโลก จาก 80 กว่าทีมครับ จากนั้นผมก็ได้รับคัดเลือกให้ไป Showcase ที่งาน World of Dance Stage Thailand และต่อเนื่องด้วยการแข่งขัน Thailand Hip-Hop International 2018 รุ่น MegaCrew อันนี้ได้ที่หนึ่งมาครับ
นอกจากนี้ ยังได้รางวัลที่สองจากการแข่งขันในนามทีม UrStyle Inspire จากเวที 2018 All Generation Championship World Final in Seoul ที่ประเทศเกาหลี และล่าสุดเลยเป็นการแข่งขันระดับภูมิภาคได้ที่สองจากการแข่งขัน To Be Number 1
สำหรับผมเอง ทุกครั้งที่ได้แสดง ได้แข่งขัน มันคือการได้พิสูจน์ตัวเอง จากที่เราดูคนอื่นผ่านทางทีวี เราได้มายืนจุดๆ นั้น และสัมผัสความรู้สึกทุกอย่างด้วยตัวเอง มันมีค่ามากๆ ครับ แต่หลังจากการแข่งปีล่าสุดผมก็ต้องปิดโหมดและหันมาโฟกัสที่เรื่องเรียน เพราะเมื่ออยู่ชั้นปีที่สูงขึ้นก็ต้องการเวลามากขึ้นเช่นกันครับ แต่ยังไงความชื่นชอบที่ผมมีต่อการเต้น ก็จะไม่เปลี่ยนไปครับ ยังคงหาความรู้ ดูนั่นดูนี่ ติดตามเทรนด์การเต้นอย่างสม่ำเสมอ”
หากถามว่าคนเราต้องเก่งแล้วจึงจะชนะใช่หรือไม่ ผมตอบได้เลยครับว่า ไม่ใช่ ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เก่ง ไม่ฉลาด ผมคิดว่าความมุ่งมั่นความตั้งใจที่ผมมี จะสามารถผลักดันให้ผมชนะได้ ชนะการแข่งขัน ชนะใจตัวเอง
ชีวิตนักศึกษาค่อนข้างเป็นอิสระหากเราโฟกัสไปที่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง อาจจะทำให้เราพลาดจากอะไรอื่นๆ ไปได้ แต่หากเราบริหารจัดการชีวิตให้ดี การเรียนก็สำคัญ ความสนุกก็สำคัญ ไม่ว่าจะกิน เที่ยว เรียน ปาร์ตี้ ทุกอย่างสำคัญหมด ดังนั้น เรามาทำทุกอย่างให้ดีไปพร้อมๆ กันดีกว่าครับ
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ