มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) พระนคร ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัย Shibaura Institute Of Technology ประเทศญี่ปุ่น และมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว จัดโครงการบูรณาการทักษะวิชาชีพเพื่อชุมชนทางสถาปัตยกรรมและการออกแบบ ภายใต้ความร่วมมือทางวิชาการ (MOU)
นายธานี สุคนธะชาติ คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มทร.พระนครกล่าวว่า โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากประเทศญี่ปุ่น โดยราชมงคลพระนครได้ส่งอาจารย์และนักศึกษาเข้าร่วมกว่า 50 คน ร่วมกันบูรณาการองค์ความรู้โดยลงพื้นที่สำรวจชุมชน 70 ไร่ คลองเตย ในการปรับปรุงบ้านให้คนในชุมชน 1 หลัง เพื่อเป็นต้นแบบและหวังยกระดับคุณภาพชีวิตให้มีความสุขมากขึ้น
ทั้งนี้ ได้เลือกปรับปรุงบ้านในชุมชนคลองเตยเนื่องจากสภาพการเป็นอยู่ที่แออัดและบ้านที่ปรับปรุงมีผู้อยู่อาศัย 10 คน หนึ่งในนั้นมีผู้ป่วยติดเตียงถึง 2 คน ซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทาย
สำหรับโครงสร้างบ้านออกแบบโดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศญี่ปุ่น เน้นใช้วัสดุที่เป็นไม้และยกหลังคาบ้านให้สูงขึ้นเพื่อระบายอากาศที่ดี การทำงานครั้งนี้ใช้ระยะเวลาเพียง 7 วัน ซึ่งในอนาคตทั้ง 3 มหาวิทยาลัยจะจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมร่วมกันอีกแน่นอน
นายสรเลข เกียรตระกูล นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มทร.พระนคร กล่าวว่า เป็นอีกหนึ่งความท้าทายในการทำงาน นอกจากต้องทำงานแข่งกับเวลา พื้นที่เล็ก และต้องประสานความร่วมมือจากเพื่อนอีก 2 ประเทศ จึงรู้สึกกังวลในตอนแรก แต่งานก็ผ่านไปได้ด้วยดี โดยได้แบ่งหน้าที่กันเป็นฝ่ายๆ ฝ่ายรื้อถอน ฝ่ายเลื่อยไม้ และฝ่ายแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ทุกคนต่างนำความรู้ในห้องเรียนออกมาใช้อย่างเต็มที่ ทำให้ได้เรียนรู้วิธีการทำงานของแต่ละประเทศ
ขณะที่น.ส.ยูกิ คิตาอุระ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัย Shibaura Institute Of Technology เล่าว่า มหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่นมีโครงการในลักษณะนี้บ่อยครั้ง ตนได้ลงไปทำกิจกรรมทุกครั้งเพราะอยากได้รับประสบการณ์ทำงาน แต่การมาทำงานที่ประเทศไทยต่างจากที่ญี่ปุ่นมาก ที่นี่เป็นชุมชนเล็กๆ แต่มีคนเป็นจำนวนมากอาศัยอยู่เป็นโจทย์การทำงานที่ท้าทาย ว่าเราจะช่วยปรับปรุงบ้านอย่างไรให้น่าอยู่และมีอากาศถ่ายเทสะดวก ซึ่งการทำงานร่วมกับเพื่อนคนไทยและชาวลาวสัมผัสได้ถึงความมีน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ด้านนายเจมจะเลิน จะเลินผล นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว ว่าการเรียนรู้ในห้องเรียนกับนอกห้องเรียนต่างกันมาก ในครั้งนี้ต้องอาศัยประสบการณ์ ซึ่งจะค่อยๆ สังเกตจากอาจารย์และเพื่อนๆ จากประเทศอื่นๆ ที่มีประสบการณ์ต่างกันนำความรู้ที่มีออกมาใช้ นอกจากความรู้ และได้ฝึกภาษาแล้ว สิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับผมคือมิตรภาพ ทุกคนคอยช่วยเหลือกันตลอด
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ