หลังจากปลดล็อกกฎหมายกัญชา จากยาเสพติดให้โทษ มาเป็นเพื่อรักษาโรคและประโยชน์ทางการแพทย์
อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวจากสถาบันการศึกษา ที่เตรียมพร้อมการใช้ประโยชน์กัญชา
รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตสกลนคร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร ได้ร่วมกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ซึ่งมีภารกิจสำคัญในการพัฒนางานการแพทย์แผนไทยในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะ “การปฏิรูประบบการศึกษาการแพทย์แผนไทย” โดยดำเนินโครงการพัฒนาเครือข่ายสถาบันการผลิตกำลังคนด้านการแพทย์แผนไทย ตั้งแต่ พ.ศ.2550 จนถึงปัจจุบัน
มทร.อีสาน วิทยาเขตสกลนคร มีนโยบายสนับสนุนงานวิจัยด้านอาหารและเครื่องดื่มสุขภาพและการดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพรและคราม ซึ่งเป็นคลัสเตอร์หลัก เริ่มตั้งแต่ต้นทาง เช่น เพิ่มทักษะกระบวนการปลูกพืชสมุนไพร รวมทั้งนวัตกรรมการปลูกกัญชา (Smart Farm) เพื่อใช้ทางการแพทย์ ที่ละเอียดรอบคอบตั้งแต่จัดตั้งโรงเรือน โดยมีกระบวนการตรวจแปลงปลูก เพื่อรองรับมาตรฐานGAPและOrganicพร้อมสนับสนุนพื้นที่และอุปกรณ์ปลูก
กลางทาง ได้แก่ การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบตราสัญลักษณ์ การเป็นศูนย์ตรวจสอบคุณภาพและการปนเปื้อนสารเคมีในธรรมชาติในผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรที่แปรรูปเป็นอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ พร้อมเครื่องมือตรวจสอบคุณภาพขั้นสูง เพื่อให้ได้มาตรฐานที่ดีที่สุด
และปลายทางคือการสนับสนุนการจัดจำหน่าย การจัดนิทรรศการแสดงผลงาน การจับคู่ธุรกิจ และการบริหารจัดการของโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยจังหวัดสกลนคร (หลวงปู่แฟ๊บ สุภัทโท)
สำหรับ 16 ตำรับยาส่วนใหญ่จะเป็นการรักษาเรื่องลม การนอนหลับ แก้ปวด รับประทานอาหารได้ เน้นส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ประกอบด้วย
1.ยาน้ำมันสนั่นไพรภพ 2.ยาอัคคินีวคณะ 3.ยาศุขไสยาศน์ 4.ยาแก้ลมเนาวนารีวาโย 5.ยาแก้ลมขึ้นเบื้องสูง 6.ยาไฟอาวุธ 7.ยาแก้นอนไม่หลับหรือยาแก้ไข้ผอมเหลือง 8.ยาแก้สัณฑฆาต กร่อนแห้ง 9.ยาอัมฤตโอสถ 10.ยาอไภยสาลี 11.ยาแก้ลมแก้เส้น 12.ยาแก้โรคจิต 13.ยาไพสาลี 14.ยาริดสีดวงทวารหนักและโรคผิวหนัง 15.ยาทำลายพระสุเมรุ และ 16.ยาทัพยาธิคุณ ซึ่งมีการประสานเพื่อเตรียมความพร้อมถึงกลุ่มที่ต้องขึ้นทะเบียน4 กลุ่ม ได้แก่ แพทย์แผนไทย แพทย์แผนประยุกต์ แพทย์พื้นบ้าน และหมอพื้นบ้าน โดยจะทำคู่ขนานไปแนวเดียวกันทั้งประเทศ
ในส่วนการเตรียมความพร้อมของ มทร.อีสาน วิทยาเขตสกลนคร เบื้องต้นได้ให้ความรู้ทำความเข้าใจกับบุคลากรชาวราชมงคลสกลนคร และเกษตรกร ถึงการปลูกกัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ในคณะทรัพยากรธรรมชาติ
นพ.สมนึก ศิริพานทอง คณะกรรมการสมาคมเซลล์บำบัดไทยกล่าวว่า กัญชาทั่วไปมียาฆ่าแมลง มีสารปนเปื้อนที่มาจากลมและอากาศ ไม่เหมาะที่จะนำมาสกัดเป็นยารักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง (ที่เป็นสาเหตุให้คนไทยเสียชีวิตปีละ 3 ล้านคน) นอกจากนั้น กัญชา ยังสามารถนำไปใช้ในการรักษาอาการหอบหืด เพราะมีคุณสมบัติที่ช่วยขยายหลอดลม ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน ปวดประจำเดือน
แน่นอนว่าการปลูก และการดูแลทุกอย่างต้องควบคุมอย่างรัดกุม และทำอย่างถูกกฎหมาย มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดด้วยกำแพง 3 ชั้น มีการสแกนลายนิ้วมือเข้าออก การทำความสะอาดร่างกายก่อนเข้าแปลงปลูก และต้องปลูกในพื้นที่ควบคุมอากาศ น้ำ และดิน เพื่อป้องกันสารปนเปื้อนและยาฆ่าแมลงที่อาจมาจากอากาศ เพื่อให้ได้วัตถุดิบคุณภาพดีสำหรับใช้ทำยาสมุนไพรและถูกต้องตามหลักสากล
เป้าหมายพื้นที่ 15 ไร่ ภายในคณะทรัพยากรธรรมชาติ มทร.อีสาน วิทยาเขตสกลนคร อ.พังโคน จ.สกลนคร โดยมีระยะเวลาปลูก 4 เดือน และใช้เวลาสกัด 1-2 สัปดาห์
นอกจากนี้ จะต้องมีห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน เพื่อวิเคราะห์และตรวจสอบมาตรฐานสารสกัดที่จะนำไปทำยา โดยปรับปรุงห้องปฏิบัติการ เพื่อการตรวจวิเคราะห์คุณภาพกัญชา และการเก็บเมล็ดพันธุ์กัญชา ณ ห้องปฏิบัติการวิจัย (A404) ชั้น 4 อาคารเรียนแพทย์แผนไทย คณะทรัพยากรธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีผู้หลอกลวงชาวบ้านด้วยการเชิญชวนให้ประชาชนมาลงทุนปลูกกัญชา โดยมีการประกันรายได้ต่างๆ นานา ซึ่ง มทร.อีสาน วิทยาเขตสกลนคร ยืนยันว่ามหาวิทยาลัยไม่มีนโยบายดังกล่าว
เนื่องจากการดำเนินงานต้องอยู่ภายใต้ความร่วมมือและต้องได้รับความเห็นชอบจากทุกฝ่าย ด้วยความรัดกุมจากรัฐบาล กรมการแพทย์ไทย และแพทย์ทางเลือก ก.สาธารณสุข และในส่วนที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร และจะต้องได้รับความเห็นชอบจากสภามหาวิทยาลัย มทร.อีสาน เท่านั้น
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ