ขณะคนโพสต์เรื่องเป็นข่าวก่อนหน้าออกมาขอโทษแล้วเป็นเพราะความเข้าใจผิด
จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อNunsasorn Khunsawatโพสต์ข้อความถึงมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ซึ่งปัจจุบันมีศ.ดร.สมบัติธำรงธัญวงศ์เป็นอธิการบดีโดยอ้างว่าอธิการบดีไม่อนุญาตให้อาจารย์ของมหาวิทยาลัยศึกษาต่อระดับปริญญาเอกสาขารัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้น
ทางมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง “นโยบายการศึกษาต่อระดับปริญญาเอกของคณาจารย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์” โดยมีใจความดังนี้ “เนื่องจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์มีวิสัยทัศน์ในการ “ก้าวสู่สากล” และเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของบัณฑิตวลัยลักษณ์ ม.วลัยลักษณ์จึงปรับปรุงโครงสร้างการเรียนการสอนภาษาอังกฤษใหม่ โดยจัดตั้งสถาบันภาษาเพื่อรับผิดชอบการสอนภาษาอังกฤษในหมวดการศึกษาทั่วไป (General Education) โดยจัดจ้างอาจารย์ชาวต่างประเทศเป็นผู้สอนไม่น้อยกว่าร้อยละ90และกําหนดให้นักศึกษาทุกคนที่เข้าเรียนตั้งแต่ปีการศึกษา2561) เป็นต้นไปต้องเรียนภาษาอังกฤษ 5 วิชาเป็นเวลา 2 ปี
และเมื่อขึ้นชั้นปีที่2 ทุกวิชาต้องสอนเป็นภาษาอังกฤษร้อยละ25และขึ้นปี 3เป็นต้นไปให้ทุกวิชาสอนเป็นภาษาอังกฤษร้อยละ50เพื่อให้มั่นใจว่านักศึกษาทุกคนจะได้มีโอกาสพัฒนาภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องและสามารถใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวันได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อสําเร็จเป็นบัณฑิต
ในการดําเนินการตามนโยบายดังกล่าวจึงต้องมีระบบพัฒนาอาจารย์ผู้สอนให้มีสมรรถนะในการใช้ภาษาอังกฤษในการสอนด้วย มหาวิทยาลัยจึงกําหนดให้อาจารย์ทุกท่านที่มีความต้องการในการพัฒนาภาษาอังกฤษสําหรับการสอนเข้าโครงการตามที่มหาวิทยาลัยกําหนด ส่วนอาจารย์ที่มีวุฒิปริญญาโทและต้องการศึกษาต่อระดับปริญญาเอกทางมหาวิทยาลัยสนับสนุนให้ไปศึกษาต่อในต่างประเทศเพื่อจะได้มีความรู้ทั้งด้านวิชาการและความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ
เหตุผลอีกประการในการส่งเสริมอาจารย์ให้ไปศึกษาต่อต่างประเทศเพราะปัจจุบันมหาวิทยาลัยยังมีสัดส่วนของอาจารย์ที่สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกต่างประเทศน้อยกว่าที่สําเร็จการศึกษาในประเทศ นอกจากนี้ สําหรับสํานักวิชาที่ยังขาดแคลนอาจารย์ เช่น สํานักวิชารัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยก็มีนโยบายให้รับบัณฑิตเกียรตินิยมที่สําเร็จการศึกษาจากสถาบันการศึกษาในประเทศไทยเพื่อให้ทุนไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทและเอกในต่างประเทศอีกด้วย สําหรับนักศึกษาที่สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกในประเทศไทยก็มีนโยบายให้ไปศึกษาระดับหลังปริญญาเอกในต่างประเทศ(Post Doctoral Program) เพื่อเป็นประสบการณ์ทั้งทางวิชาการและการพัฒนาการใช้ภาษาไปด้วยพร้อมกัน
ดังนั้น การที่มีผู้ไปโพสต์ข้อความว่าอธิการบดีม.วลัยลักษณ์ประกาศไม่ให้อาจารย์ของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยในประเทศไทยโดยระบุชื่อเฉพาะเจาะจงนั้นไม่เป็นความจริง จึงขอแถลงมาให้ทราบโดยทั่วกันณที่นี้และหากพบว่ามีเจตนาที่จะก่อให้เกิดความเสียหายโดยไม่สุจริตมหาวิทยาลัยจําเป็นที่จะต้องดําเนินการตามกฎหมายต่อไป”
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อNunsasorn Khunsawat ได้โพสต์ข้อความระบุว่าสืบเนื่องจากกรณีที่ดิฉันโพสต์ผ่าน FB. ว่าม.วลัยลักษณ์สั่งห้ามมิให้อาจารย์ศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกรัฐศาสตร์จุฬา/และรัฐศาสตร์ธรรมศาสตร์นั้น ขอนำเรียนว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริงเป็นความเข้าใจผิดและตีความคลาดเคลื่อนของดิฉันเองแท้ที่จริงแล้วมหาวิทยาลัยมีนโยบายส่งเสริมให้อาจารย์ศึกษาต่อต่างประเทศตามแถลงการณ์นี้
เรื่องดังกล่าวนี้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อท่านอธิการบดีศาสตราจารย์ดร.สมบัติธำรงค์ธัญวงศ์และต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ดิฉันจึงกราบขออภัยท่านและขอกราบเรียนมาและนำเรียนให้สังคมทราบโดยทั่วกันว่ามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ไม่มีนโยบายดังกล่าวแต่อย่างใด”
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ