เป็นที่ทราบกันดีว่าการแก้ปัญหาความยากจนที่ต้นเหตุคือการส่งเสริมด้านการศึกษา โดยเฉพาะกับเด็กเพื่อให้มีความรู้และทักษะที่จะนำไปใช้ประกอบอาชีพเพื่อเลี้ยงตนเองและครอบครัวในอนาคต แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความเหลื่อมล้ำในสังคมด้านการศึกษากลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้เด็กในแต่ละพื้นที่ไม่ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและเหมาะสมเท่าที่ควร
เทศบาลนครเชียงใหม่ เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว จึงให้ความสำคัญกับการศึกษาเพื่อยกระดับการเรียนรู้ให้กับโรงเรียนในสังกัดเทศบาล โดยร่วมมือกับสถาบันนานมีบุ๊คส์อินโนเวชั่น เปิดศูนย์วิทยาศาสตร์ปฏิบัติการHands on ที่มีต้นแบบจากประเทศเยอรมัน มาพัฒนาภายในโรงเรียน ได้ทำพิธีเปิด โดย นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เป็นประธาน พร้อมจัดอบรมวิธีการใช้งานให้กับครูและนักเรียน ณ โรงเรียนชุมชนเทศบาลวัดศรีดอนไชย เมื่อเร็วๆ นี้
นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าเด็กนักเรียนในโรงเรียนสังกัดเทศบาล มีโอกาสทางการศึกษาน้อยกว่าอีกหลายๆ โรงเรียน ซึ่งถ้าเราไม่ทำอะไรเลย โอกาสที่เด็กจะประสบความสำเร็จก็จะยากมาก กลายเป็นวงจรของความยากจนไปเรื่อย ๆ พอเด็กมีโอกาสน้อย โอกาสได้งานดีๆ ก็น้อย ก็กลายเป็นวงจรเดิมๆ ไม่จบสิ้น
ฉะนั้น การจะให้เด็กกลุ่มนี้พ้นออกมาให้ได้ คือการให้การศึกษา จึงเป็นหน้าที่ของเทศบาลที่จะทำให้เด็กกลุ่มนี้ได้รับโอกาสให้มากที่สุด ซึ่งโอกาสเหล่านี้มาจากเทคนิคการเรียนการสอน สื่อและอุปกรณ์ที่ดีมีคุณภาพ ที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กให้ได้มากที่สุดนั่นเอง โดยเฉพาะวิชาวิทยาศาสตร์ที่เป็นพื้นฐานทางความคิดที่สำคัญ
เราจึงเลือกพัฒนาด้านนี้ โดยสื่อและอุปกรณ์ที่นำมาพัฒนานี้เราให้ครูผู้สอน รวมถึงผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกเปรียบเทียบหลายๆ ที่พบว่าศูนย์วิทยาศาสตร์ปฏิบัติการ Hands on โดยสถาบันนานมีบุ๊คส์อินโนเวชั่น เป็นสื่อที่ตอบโจทย์ ที่ไม่ต้องการให้เด็กท่องจำแต่เน้นการปฏิบัติและลงมือทำจนเกิดความเข้าใจอย่างแท้จริง
แน่นอนว่าพอเด็กได้ลงมือทำย่อมดีกว่าได้ท่องจำจากตัวหนังสืออย่างเดียว ซึ่งหวังว่าเด็กจะมีทักษะการเรียนรู้ที่ดีขึ้น ที่ส่งผลไปสู่การมีคะแนนสอบที่ดีขึ้น ตั้งเป้าว่าเป้าหมายแรกคืออย่างน้อยมีคะแนนไม่ตกอันดับของระดับจังหวัด และระดับประเทศ เพราะเด็กก็ต้องใช้คะแนนสอบเพื่อไปเรียนต่อในที่ต่างๆ อันดับที่สอง อยากให้เด็กๆ มีทักษะลงมือปฏิบัติจนเกิดความรู้ความเข้าใจและความรู้เหล่านั้นจะติดตัวไปตลอดชีวิต
ด.ช.เขมทัต นิราศนภาภัย (น้องไนท์) อายุ 13 ปี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1โรงเรียนชุมชนเทศบาลวัดศรีดอนไชย เผยว่า มีศูนย์วิทยาศาสตร์ปฏิบัติการ Hands on มาที่โรงเรียนถือเป็นสิ่งใหม่ที่ยังไม่เคยสัมผัสมาก่อน รู้สึกตื่นเต้นมาก หลังจากที่ได้ทดลองเล่นแล้วสนุกมาก เป็นศูนย์วิทยาศาสตร์ที่ไม่มีคำอธิบาย ทำให้ผมและเพื่อนต้องช่วยกันค้นหาคำตอบ บ้างก็ตั้งข้อสังเกต คาดเดาความน่าจะเป็น ไม่มีถูกไม่มีผิด รู้สึกท้าทายมาก อีกอย่างคือแตกต่างจากในห้องเรียน ที่เราไม่ต้องนั่งฟังอย่างเดียว
ด.ญ พิมพ์กมล ประเลา (น้องเนย) อายุ 13 ปี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชุมชนเทศบาลวัดศรีดอนไชยกล่าวว่า เป็นศูนย์วิทยาศาสตร์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่มีคำอธิบาย กระตุ้นให้เราต้องคิดสังเกตและลองลงมือทดลอง เพื่อหาผลลัพธ์ด้วยตัวเอง ยิ่งได้เล่นร่วมกับเพื่อนๆ จะยิ่งสนุก เพราะได้ช่วยกันคิดช่วยกันค้นหา ท้าทายมากๆ
ปัจจุบันเทศบาลนครเชียงใหม่ได้สร้างศูนย์วิทยาศาสตร์ปฏิบัติการHands onขึ้นแล้วรวม 5 ศูนย์ ณ โรงเรียนเทศบาลวัดท่าสะต๋อย, โรงเรียนเทศบาลวัดศรีปิงเมือง, โรงเรียนเทศบาลวัดเชียงยืน, โรงเรียนเทศบาลวัดป่าแพ่ง และโรงเรียนเทศบาลวันศรีดอนไชย โดยเปิดโอกาสให้ครูและนักเรียนโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครเชียงใหม่สามารถใช้งานในทุกโรงเรียน
ศูนย์วิทยาศาสตร์ปฏิบัติการHands on เป็นศูนย์วิทยาศาสตร์แนวใหม่ มีแนวคิดและออกแบบโดยมูลนิธิ PHANOMENTAจากประเทศเยอรมนี ที่ไม่มีวิธีเล่น และไม่มีคำอธิบาย การค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง ผ่านกิจกรรม hands-onคือลงมือปฏิบัติ สัมผัสสื่อและอุปกรณ์ต่างๆ ในสถานีทดลอง 32 สถานี ด้วยการปฏิบัติจริงกับประสาทสัมผัสทั้งห้า และการสนทนากับเพื่อน จะสร้างแรงบันดาลใจให้อยากรู้ และเข้าใจเองในที่สุด
โรงเรียนหรือหน่วยงานที่สนใจเปิดศูนย์วิทยาศาสตร์ปฏิบัติการเฟโนเมนต้าภายในโรงเรียน ขอรับคำแนะนำได้ที่สถาบันนานมีบุ๊คส์อินโนเวชั่น โทร.0-2662-3000 ต่อ 4403 และ 4310
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ