เผยตั้งสมมติฐานส่วนหนึ่งอาจเกิดจากกลไกต้นไม้ปลดปล่อยสารประกอบไฮโดรคาร์บอนก่อฝุ่นในชั้นบรรยากาศ นอกเหนือจากมลพิษฝีมือมนุษย์ 19-21 ก.พ.นี้ เชิญผู้วิจัยสภาพอากาศชั้นนำของโลกร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ปัญหา
ดร. วนิสา สุรพิพิธ นักวิจัยชำนาญการ หนึ่งในทีมวิจัยวิทยาศาสตร์บรรยากาศ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สดร.) เปิดเผยว่า สดร.ได้เฝ้าระวังและค้นคว้าหาสาเหตุเบื้องหลังการพุ่งขึ้นสูงของระดับความเข้มข้นของฝุ่นในเชียงใหม่ อันเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทุกปีในช่วงฤดูแล้ง (ธ.ค.-มี.ค.) โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา รายงานการตรวจวัดคุณภาพอากาศกรมควบคุมมลพิษในจังหวัดเชียงใหม่ 2 สถานี ได้แก่ สถานีศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่และสถานีโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ตรวจวัดระดับความเข้มข้นของฝุ่นแบบค่าเฉลี่ยราย 24 ชม. พบว่าระดับฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) มีค่าสูงกว่า 70 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทั้ง 2 สถานี (ระดับมาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศประเทศไทย อยู่ที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
ฝุ่นเหล่านี้ปกคลุมไปทั่วเมืองเชียงใหม่ ทำให้ทัศนวิสัยแย่ลงอย่างชัดเจนจนสังเกตได้ หากสูดหายใจเอาฝุ่นขนาดเล็กเข้าไปในปริมาณมาก จะทำให้รู้สึกแสบจมูก หายใจลำบาก ในระยะยาวอาจมีความเสี่ยงโรคทางเดินหายใจ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมควบคุมมลพิษ กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกันกำหนดมาตรการเบื้องต้น โดยควบคุมไม่ให้เผาในที่โล่ง กรมทางหลวงขอความร่วมมือประชาชนหมั่นตรวจสภาพรถยนต์ป้องกันการก่อเขม่าควันดำ ผู้ประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิงทุกยี่ห้อ ร่วมกันส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลกำมะถันต่ำระดับยูโร5 (EURO5)
อย่างไรก็ตาม ท้องฟ้าเมืองเชียงใหม่ยังคงไม่สดใส เพื่อความปลอดภัย ควรหาหน้ากากปิดปากจมูกไม่เฉพาะในระหว่างสัญจรนอกอาคาร แต่ยังรวมถึงในห้องทั้งที่บ้าน-ที่ทำงาน หรือใช้แผ่นกรองอากาศภายในอาคาร และงดออกกำลังกายกลางแจ้ง เพื่อลดผลกระทบของฝุ่นต่อสุขภาพ
ดร. วนิสากล่าวว่า สดร.ทำวิจัยด้านวิทยาศาสตร์บรรยากาศ เพื่อหาสาเหตุและเฝ้าระวังการเพิ่มขึ้นของฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเกิดขึ้นทุกปีในช่วงฤดูแล้ง ได้พัฒนาแบบจำลองพยากรณ์คุณภาพอากาศ หาแหล่งที่มา และสันนิษฐานว่า สาเหตุดังกล่าวอาจไม่ได้มาจากกิจกรรมปล่อยมลพิษจากมนุษย์โดยตรงเพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดจากกลไกของต้นไม้ เมื่อได้รับแสงแดด ความชื้น และอุณหภูมิในปริมาณที่เพียงพอ จะปล่อยสารประกอบไฮโดรคาร์บอนประเภทสารอินทรีย์ระเหยง่ายออกมา เช่น แก๊สไอโซพรีน แก๊สโมโนเทอร์พีน ฯลฯ
แก๊สเหล่านี้จะทำปฏิกิริยากับไนตริกออกไซด์และรังสีอัลตราไวโอเลตในบรรยากาศบริเวณพื้นผิวโลก เกิดเป็นอนุภาคขนาดเล็กและแก๊สโอโซน แล้วจับตัวกันเป็นอนุภาคที่ใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นอนุภาคฝุ่นในที่สุด ประกอบกับสภาวะความกดอากาศสูงที่เกิดขึ้นทุกปีในฤดูแล้ง และเชียงใหม่มีสภาพภูมิประเทศที่ล้อมรอบด้วยภูเขา จึงทำให้ลมสงบ ฝุ่นขนาดเล็กถูกพัดพาออกไปได้น้อย จึงสะสมในปริมาณหนาแน่นปกคลุมเหนือตัวเมืองดังเช่นในปัจจุบัน
กรณีดังกล่าว สดร. จึงร่วมกับสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร และมหาวิทยาลัยพะเยา จัดอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาแบบจำลองพยากรณ์คุณภาพอากาศ เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านแบบจำลองเคมีในบรรยากาศจากศูนย์วิจัยบรรยากาศแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา (National Center for Atmospheric Research; NCAR) และมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียแห่งเมืองเออร์ไวน์ (UC Irvine) ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์ด้านการค้นคว้าวิจัยแบบจำลองพยากรณ์คุณภาพอากาศระดับแนวหน้าของโลก ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อค้นหาสาเหตุของฝุ่นพิษและแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดยิ่งขึ้น ระหว่างวันที่ 19-21 ก.พ.62 ณ โรงแรมแคนทารีฮิลล์ จ.เชียงใหม่ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 087-683-4730
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ