กปร. สนองพระราชดำริสืบสาน รักษา ต่อยอดพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มุ่งพัฒนาสร้างรากฐานชีวิตที่สมดุลให้แก่ประชาชน
ในโอกาสครบรอบวันสถาปนา 42 ปี
นายปวัตร์ นวะมะรัตน เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” (กปร.)เปิดเผยว่า ปัจจุบัน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั่วประเทศ รวมจำนวน 5,151 โครงการ แบ่งออกเป็น 8 ด้าน ได้แก่ โครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำ ด้านการเกษตร ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านส่งเสริมอาชีพ ด้านสาธารณสุข ด้านคมนาคม การสื่อสาร ด้านสวัสดิการสังคม การศึกษา และด้านบูรณาการ อื่น ๆ ซึ่งเป็นความร่วมมือจากหลากหลายหน่วยงานที่ร่วมกันดำเนินงานสนองพระราชดำริ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ในการดำเนินงานนอกจากจะเผยแพร่องค์ความรู้จากการพัฒนาตามแนวพระราชดำริไปสู่ประชาชนทุกกลุ่มแล้ว กปร. ยังให้ความสำคัญกับกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ซึ่งจะเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศ จึงจัดโครงการค่ายเยาวชนรู้งานสืบสานพระราชดำริ (RDPB Camp) ขึ้นเป็นประจำมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันดำเนินการมาเป็นรุ่นที่ 13 แล้ว โดยนำเยาวชนในระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่า จากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ร่วมเข้าค่ายเรียนรู้แนวพระราชดำริทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมทั้งยังจัดให้มีกิจกรรมการประกวดโครงการเพื่อชิงทุนการศึกษาและรางวัลต่อไป
นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดทำโครงการความร่วมมือเพื่อขยายผลองค์ความรู้การพัฒนาตามแนวพระราชดำริสู่เยาวชน ในรูปแบบสื่อดิจิทัล โดยมีการนำเสนอให้มีความน่าสนใจตามยุคสมัย ผ่านรถโมบาย (Mobile Unit) เพื่อเผยแพร่ขยายผลแนวพระราชดำริไปยังโรงเรียนบริเวณพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และในพื้นที่ห่างไกล ให้ได้รับความรู้อันก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต
และจากพระปฐมบรมราชโองการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2562 “เราจะสืบสาน รักษา ต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” จึงนำไปสู่การสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี ส่วนใหญ่เป็นเรื่องแหล่งน้ำประมาณ 70 – 80 % ของโครงการรวมทั้งหมด เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามพระปฐมบรมราชโองการ จึงมีการกำหนดแผนว่าจะทำอะไรบ้างตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เมื่อโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเป็นกลางน้ำ ต้นน้ำ คือ ป่าซึ่งเป็นต้นทุนให้กับอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อนต่าง ๆ ให้มีน้ำสมบูรณ์ ปลายน้ำก็จะต่อยอดพัฒนาได้ ตั้งแต่เรื่องการเกษตร การพัฒนาอาชีพ การพัฒนาชุมชน การตลาด และพลังงานทดแทน และด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภูมิสังคม อันนี้คือภารกิจของ กปร. ที่สำคัญ โดยเรามีองค์ความรู้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตั้งแต่เรื่องของเกษตรทฤษฎีใหม่ เศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาอาชีพต่าง ๆ มีศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 6 แห่ง รวมถึงมีศูนย์สาขาและศูนย์เรียนรู้ในด้านต่าง ๆ กว่าร้อยแห่งทั่วประเทศ เหล่านี้เกิดจากการศึกษา ทดลอง วิจัย ที่สำเร็จแล้วก็นำผลสัมฤทธิ์เหล่านี้ไปต่อยอดในพื้นที่ปลายน้ำให้เกิดประโยชน์
“อันนี้คือแนวทางที่สำนักงาน กปร. จะดำเนินการเพื่อสนองพระราชดำริในการสืบสาน รักษา ต่อยอดตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสครบรอบวันสถาปนา 42 ปี สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่ทำหน้าที่ด้านการประสานงานกับส่วนงานที่ร่วมสนองงานพระราชดำริขอสืบสานพระราชดำริ เพื่อร่วมกันพัฒนาสร้างรากฐานชีวิตที่สมดุลให้แก่ประชาชนต่อไป” เลขาธิการ กปร. กล่าว