Apple ช่วยให้ซัพพลายเออร์ทั่วโลกหันมาใช้พลังงานหมุนเวียนมากยิ่งขึ้น

ซัพพลายเออร์มากกว่า 200 รายให้คำมั่นที่จะใช้พลังงานสะอาดเท่านั้น ซึ่งรวมกันแล้วมากเกือบ 16 กิกะวัตต์

คูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย วันนี้ Apple ได้ประกาศว่ามีซัพพลายเออร์ที่ใช้พลังงานสะอาดมากขึ้นเกิน 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา รวมเป็นพลังงานในการทำงานวันนี้มากกว่า 10 กิกะวัตต์จากที่ตั้งไว้ว่าจะทำให้ได้รวมประมาณ 16 กิกะวัตต์ในอีกไม่กี่ปีนี้ ในปี 2021 โครงการใช้พลังงานหมุนเวียนเหล่านี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไปได้ถึง 13.9 ล้านเมตริกตัน โครงการต่างๆ ที่ออนไลน์อยู่ในตอนนี้จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากเทียบเท่ากับการหยุดใช้รถยนต์กว่า 3 ล้านคันบนท้องถนนนาน 1 ปี

Apple กำลังมุ่งมั่นทำงานร่วมกับซัพพลายเชนรายต่างๆ ทั่วโลกเพื่อเร่งรัดและสนับสนุนการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด ในวันนี้ พันธมิตรด้านการผลิตรายใหญ่จาก 25 ประเทศได้ให้คำปฏิญาณร่วมกันว่าพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้ในกระบวนการผลิตของ Apple นั้นจะเป็นพลังงานหมุนเวียน คำมั่นหลายสิบข้อที่ประกาศออกมาในวันนี้จะช่วยเร่งรัดการดำเนินการตามเป้าหมายของ Apple ในปี 2023 ที่ตั้งใจจะให้ซัพพลายเชนทุกรายมีความเป็นกลางทางคาร์บอน การทำงานต่างๆ ทั่วโลกของ Apple เองมีความเป็นกลางทางคาร์บอนมาตั้งแต่ปี 2020

“เราภูมิใจมากที่พันธมิตรด้านการผลิตหลายรายได้เข้าร่วมกับเราเพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ด้านภูมิอากาศ ด้วยการสร้างพลังงานหมุนเวียนให้เกิดมากขึ้นทั่วโลก” Lisa Jackson รองประธานโครงการริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อม นโยบาย และสังคมของ Apple กล่าว “พลังงานสะอาดนอกจากจะดีต่อธุรกิจแล้วยังดีต่อโลกของเราอีกด้วย การเผยแพร่สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานหมุนเวียน คือการช่วยนำทางไปสู่อนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น”

คำมั่นของซัพพลายเออร์และโครงการด้านพลังงานทั่วโลก

นอกจากการให้คำมั่นของพันธมิตรด้านการผลิต 213 รายเกี่ยวกับการใช้พลังงานสะอาดแล้ว ฝั่ง Apple เองก็ได้ลงทุนโดยตรงกับโครงการพลังงานหมุนเวียนต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงโครงการก่อสร้างแผงพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ ขนาดเกือบ 500 เมกะวัตต์ในจีนและญี่ปุ่น เพื่อจัดการกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนช่วงต้นน้ำ Apple ต้องการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านมาใช้พลังงานสะอาด จึงได้เผยแพร่เนื้อหาและมอบเอกสารประกอบการฝึกสอนต่างๆ ที่มีข้อมูลแบบเจาะจงตามตลาด แหล่งข้อมูลเหล่านี้ได้ช่วยกระตุ้นให้เกิดโซลูชันใหม่ๆ ทั่วโลกในด้านพลังงานสะอาด

ในยุโรป เมื่อปีที่ผ่านมา ซัพพลายเออร์รายใหม่กว่า 11 รายในทั้งหมด 25 ประเทศยุโรป เช่น Infineon, Viscom AG และ Lumileds ต่างให้คำมั่นว่าจะใช้พลังงานสะอาด และได้ใช้โซลูชันต่างๆ ด้านพลังงานสะอาด เช่น Infineon ได้นำแผงพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ที่โรงงานในเยอรมนีและออสเตรีย ส่วน DSM Engineering Materials ก็ได้ให้การสนับสนุนแก่โครงการพลังงานลมในเนเธอร์แลนด์ Apple ได้ให้การสนับสนุนแก่โครงการพลังงานหมุนเวียนจากเดนมาร์กอยู่แล้ว 2 โครงการคือทุ่งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ใกล้เมือง Thisted และฟาร์มกังหันลมใกล้เมือง Esbjerg เพื่อนำพลังงานจากทั้ง 2 โครงการนี้มาใช้กับศูนย์ข้อมูลของ Apple ในเดนมาร์ก Apple เองก็กำลังหาวิธีใหม่ๆ ในการจัดการกับผลิตภัณฑ์ของผู้บริโภคในภูมิภาคนี้

ในสหรัฐอเมริกา Apple ได้ลงทุนโดยตรงในโครงการ IP Radian Solar ซึ่งมีพื้นที่กว้างถึง 2,300 เอเคอร์ในเมืองบราวน์เคาน์ตี รัฐเท็กซัส เมื่อสร้างเสร็จในปีนี้ โครงการนี้จะสร้างพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 300 เมกะวัตต์ Apple ได้ลงทุนในครั้งนี้เพื่อชดเชยปริมาณไฟฟ้าที่ลูกค้าใช้ชาร์จอุปกรณ์ Apple ซึ่งเป็นจำนวนถึง 22 เปอร์เซ็นต์ของรอยเท้าคาร์บอนสุทธิของบริษัท

ซัพพลายเออร์ของ Apple ที่ดำเนินการในสหรัฐอเมริกายังคงมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องที่จะใช้พลังงานสะอาด DuPont ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ และ Micron Technology, Inc., ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองบอยซี รัฐไอดาโฮ ได้ประกาศคำมั่นครั้งใหม่ในวันนี้ ซัพพลายเออร์ของ Apple อย่าง Solvay และ Corning ได้ช่วยให้การสนับสนุนแก่ฟาร์มแผงพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งในรัฐนอร์ทแคโรไลนาและรัฐเซาท์แคโรไลนาอยู่แล้วตามคำมั่นที่ให้ไว้กับ Apple

ในจีน ซัพพลายเออร์รายใหม่กว่า 23 รายได้เข้าร่วมโปรแกรมนี้เมื่อปีที่แล้ว ซัพพลายเออร์รายใหญ่ๆ ของ Apple เกือบทุกรายที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในจีนได้ให้คำมั่นว่าจะใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิตของ Apple โดยติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ไว้บนอาคารในโรงงาน และให้การสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของประเทศไปใช้พลังงานหมุนเวียน และรวมถึงคำมั่นใหม่ๆ จากซัพพลายเออร์ เช่น Ruicycle ที่จะใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการรีไซเคิลแบบครบวงจรสำหรับ Apple ในปี 2018 Apple ได้ใช้แนวทางที่ไม่เหมือนใครเพื่อเร่งรัดการใช้พลังงานหมุนเวียนในจีนผ่านการเปิดตัว China Clean Energy Fund แม้ว่าจะเป็นการลงทุนที่ไม่เหมือนใคร แต่ Apple และซัพพลายเออร์ก็ได้ร่วมลงทุนไปกับพลังงานสะอาดกว่า 465 เมกะวัตต์

ในญี่ปุ่น ตอนนี้มีตัวเลือกใหม่ๆ ด้านพลังงานสะอาดให้ธุรกิจได้เลือกใช้ เนื่องจากมีข้อตกลงด้านการใช้พลังงานมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ผ่านมา ผู้ซื้อพลังงานสำหรับองค์กรเคยถูกจำกัดให้ต้องใช้แผงพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนชั้นดาดฟ้าเท่านั้นและมีตัวเลือกเกี่ยวกับการรับรองที่แยกกัน แต่ในวันนี้การสนับสนุนเรื่องการร่วมมือได้ช่วยให้เปิดตลาดให้กว้างขึ้น เมื่อปีที่ผ่านมา ซัพพลายเออร์รายใหม่กว่า 20 ราย ซึ่งรวมถึง Kioxia Corporation และ Sharp Corporation ได้ให้คำมั่นที่จะใช้พลังงานสะอาดในญี่ปุ่น Nitto Denko และซัพพลายเออร์อีกหลายรายของ Apple ได้ลงทุนติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ในโรงงาน ส่วน Keiwa ก็ได้นำพลังงานจากโครงการพลังงานลมที่ตั้งอยู่นอกกรุงโตเกียวมาใช้กับ Apple

ในเกาหลีใต้ LG Display Co. Ltd. และ Samsung SDI ได้ให้คำมั่นว่าจะใช้พลังงานสะอาดสำหรับกระบวนการผลิตทั้งหมดของ Apple เพิ่มเติมไปจากโปรแกรมที่มีความก้าวหน้าสูงในปีที่ผ่านมา ซึ่งมีซัพพลายเออร์ทั้งหมด 13 รายให้คำมั่นที่จะใช้พลังงานสะอาดในโลกออนไลน์

Apple ได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรในตลาดที่ซัพพลายเออร์ต้องประสบปัญหาเป็นพิเศษในการเข้าถึงพลังงานสะอาดและประหยัด เพื่อทลายกำแพงโดยใช้นวัตกรรมและข้อตกลงด้านนโยบาย

ผลของพลังงานสะอาดที่มีต่อชุมชน

นอกจาก Apple จะได้เร่งรัดกระบวนการที่จะนำไปสู่ความเป็นกลางด้านคาร์บอนในทุกซัพพลายเชนทั่วโลกอย่างต่อเนื่องแล้ว บริษัทยังได้มุ่งความสนใจไปที่การให้ความสนับสนุนแก่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอีกด้วย Apple ได้ใช้โปรแกรม Power for Impact เพื่อช่วยเหลือให้ชุมชนต่างๆ ในท้องถิ่นที่ขาดแคลนทั่วโลกสามารถเข้าถึงพลังงานหมุนเวียน พร้อมให้การสนับสนุนเพื่อพัฒนาสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบ

ในตอนนี้ โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในโคลอมเบีย ฟิลิปปินส์ และแอฟริกาใต้ได้ช่วยให้ชุมชนที่ขาดแคลนพลังงานอย่างหนัก สามารถเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าที่เสถียรและมีราคาประหยัด Apple จะขยายโปรแกรมนี้ไปยังประเทศอื่นๆ ในโลก เช่น อิสราเอล ไนจีเรีย ไทย และเวียดนาม ต่อไป โปรแกรมต่างๆ เหล่านี้ช่วยให้เกิดงาน และนำไปสู่การประหยัดพลังงานที่ตัวชมุชนเองสามารถลงทุนซ้ำได้ ทุกโครงการของ Apple จะไม่ทำลายสภาพแวดล้อม และชุมชนจะใช้การประหยัดพลังงานมาพัฒนาเศรษฐกิจ การศึกษา สุขภาพ และการริเริ่มทางสังคมอื่นๆ