05 ต.ค. 2564 เวลา 11:46 น.
ซีพีเอฟคว้ารางวัลองค์กรนวัตกรรมดีเด่นปี 64 สะท้อนความมุ่งมั่นนำนวัตกรรมขับเคลื่อนธุรกิจ ประเภทองค์กรภาคเอกชนขนาดใหญ่
นายไพโรจน์ อภิรักษ์นุสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจสัตว์น้ำ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ (CPF) เปิดเผยว่า ซีพีเอฟได้รับรางวัลองค์กรนวัตกรรมดีเด่น ประจำปี 2564 (รางวัลเกียรติคุณ ประเภทองค์กรภาคเอกชนขนาดใหญ่ ) จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
ทั้งนี้ ซีพีเอฟมุ่งมั่นในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภค และยกระดับศักยภาพของบุคลากร ตอกย้ำการสร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งนวัตกรรม เพื่อร่วมพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
“ซีพีเอฟ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ครัวของโลกที่ยั่งยืน ทำหน้าที่สร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยให้ความสำคัญกับการสร้างนวัตกรรม คน และ สิ่งแวดล้อม ด้วยการนำความรู้ เทคโนโลยี ระบบดิจิทัล และความคิดสร้างสรรค์ มาประยุกต์ใช้เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานทั้งองค์กร ขับเคลื่อนการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่อุปทาน ทั้งในธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจการเลี้ยงสัตว์และธุรกิจแปรรูปอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารจัดการนวัตกรรมและบุคลากรภายในองค์กรอย่างเป็นระบบ ร่วมสนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศและยกระดับความสามารถในการแข่งขัน รวมไปถึงการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals :SDGs)”
ซีพีเอฟ นำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้กับกระบวนการเลี้ยงสัตว์ทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ รวมทั้งการดูแลด้านสวัสดิภาพสัตว์ ยกระดับและส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ตามมาตรฐานสากลตลอดห่วงโซ่อุปทาน อาทิ การเลี้ยงไก่แบบปล่อยอิสระในโรงเรือน (Cage Free) และแบบปล่อยอิสระ (Free Range) ในโรงเรือนแบบปิด Biosecurity High Tech Farming ที่ปลอดโรค 100% ถ่ายทอดองค์ความรู้ต่อไปยังเกษตรกร
รวมไปถึงการปรับปรุงพันธุ์กุ้งที่แข็งแรง โตเร็ว ควบคู่ระบบการเลี้ยงในโรงเรือนแบบปิด ตลอดจนร่วมกับสถาบันการศึกษา พัฒนาหลัก 3 สะอาด ช่วยแก้ปัญหาโรคระบาด EMS ในกุ้ง และถ่ายทอดองค์ความรู้ต่อไปยังเกษตรกร การนำระบบอีแวป (EVAP) ตามมาตรฐาน Biosecurity ช่วยการผลิตสุกรที่ปลอดภัย ป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ของไทยอย่างยั่งยืน
นายไพโรจน์ กล่าวต่อไปอีกว่า ภายใต้กลยุทธ์ 2030 Sustainability in Action บริษัทฯมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนนวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีจาก 35% เป็น 50 % ภายในปี 2573 ด้วยความมุ่งมั่นวิจัยและพัฒนาของศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารของซีพีเอฟ นำนวัตกรรมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร โดยร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ อาทิ ผลิตภัณฑ์ เบญจา ชิคเก้น (Benja Chicken) เป็นนวัตกรรมเนื้อไก่สดพรีเมียม ไก่ที่เลี้ยงไก่ด้วยข้าวกล้อง ทำให้ได้เนื้อไก่ที่ หอม นุ่ม ฉ่ำ กว่าไก่ทั่วไป
และยังไม่ใช้ยาปฏิชีวนะตลอดการเลี้ยงดู จนได้รับเลือกเป็นหนึ่งในนวัตกรรม Top Innovative Product ของงาน THAIFEX – World of Food Asia 2019 ผลิตภัณฑ์หมูชีวา หมูสายพันธุ์พิเศษ เลี้ยงด้วย Super food ชั้นดี Flax Seed, น้ำมันปลา และ สาหร่ายทะเลลึก จนได้หมูที่มีโอเมก้า 3 ได้รับรางวัลสุดยอดนวัตกรรมอาหาร จากงานแสดงสินค้าอาหารระดับโลก THAIFEX-Anuga Asia 2020 การนำโปรไบโอติกมาใช้การผลิตอาหารสัตว์เพื่อช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้สัตว์แข็งแรงตามธรรมชาติ ไม่ป่วยง่าย การพัฒนาโปรตีนทางเลือก Plant- Based Protein ภายใต้แบรนด์ Meat Zero ที่ผลิตจากพืช 100% ซึ่งเป็นความร่วมมือกับบริษัทด้าน Plant-based ระดับโลกจากหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น สหรัฐ และสิงคโปร์ รวมถึงสถาบันการศึกษาของไทยอย่าง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นนวัตกรรม PLANT-TEC หรือ เทคนิคการสร้างรสสัมผัสเสมือนเนื้อสัตว์รองรับกระแสผู้บริโภคที่สนใจมังสวิรัติยืดหยุ่น (Flexitarian) เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ซีพีเอฟ ส่งเสริมการสร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งนวัตกรรม เน้นการพัฒนาและนวัตกรรมทั้งองค์กรอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพสูงสุดต่อตัวพนักงานและบริษัท อาทิ นำมาตรฐาน ISO 56002 ซึ่งเป็นมาตรฐานการจัดการนวัตกรรมที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลมาใช้ พัฒนานวัตกรตามแนวทาง TRIZ ในองค์กรได้มากกว่า 1,000 คน
และยังได้จัดตั้งคณะกรรมการนวัตกรรมขององค์กร เพื่อความคล่องตัวในการบริหารจัดการนวัตกรรมเชิงกลยุทธ์ในทิศทางเดียวกันทั้งองค์กร จากความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนพัฒนาการบริหารนวัตกรรมขององค์กรอย่างจริงจัง ส่งผลให้ ซีพีเอฟ เป็นองค์กรรายแรกของประเทศไทยที่ได้รับรองมาตรฐาน ISO 56002 จากสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ริเริ่มโครงการเถ้าแก่เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาสิ่งใหม่ ตลอดห่วงโซ่ธุรกิจของซีพีเอฟตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ส่งเสริมคนรุ่นใหม่ในการลงมือปฏิบัติจริง เป็นการพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพสร้างคนเก่งและคนดีให้กับประเทศชาติ
สำหรับการจัดประกวดรางวัลนวัตกรรมแห่งชาตินั้น เพื่อพิจารณาคัดเลือกองค์กรนวัตกรรมดีเด่น จากศักยภาพในการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน และการบริหารจัดการนวัตกรรมองค์กรภายใต้กรอบโมเดลการประเมินศักยภาพนวัตกรรมองค์กร (IOM) ใน 8 มิติ ได้แก่ มิติด้านยุทธศาสตร์นวัตกรรม (Innovation Strategy) มิติด้านการมุ่งเน้นธุรกิจ (Business Focus) มิติด้านบุคลากร (People) มิติด้านองค์ความรู้ (Knowledge) มิติด้านวัฒนธรรมองค์กร (Culture) มิติด้านทรัพยากร (Resource) มิติด้านกระบวนการนวัตกรรม (Process) และ มิติด้านผลิตผลจากนวัตกรรม (Result)
“วันที่ 5 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันนวัตกรรมแห่งชาติ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ร่วมกับองค์กรภาคเอกชนชั้นนำ ภาคสถาบันการศึกษา ภาคประชาสังคม จัดงานวันนวัตกรรมแห่งชาติ เพื่อเทิดพระเกียรติและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นพระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย และจัดให้มีการประกาศเกียรติคุณองค์กรที่สร้างสรรค์ผลงานที่มีความเป็นนวัตกรรมโดดเด่น และเกิดคุณค่าที่ชัดเจนต่อประเทศชาติ”