วาทกรรมการพัฒนาในยุคเปลี่ยนประเทศสู่ “ความทันสมัย” เมื่อเกือบ 6 ทศวรรษที่ผ่านมา สร้างบาดแผล-ความเจ็บปวดให้กับท้องถิ่นและคนเล็กคนน้อยมาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นมรดกบาปที่ทิ้งไว้เป็นภาพจำในนามของงานพัฒนาที่ยากจะลืมเลือน! รวมถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ “ความเป็นอุตสาหกรรม” ที่เคลื่อนไหวในโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ดด้วย ซึ่งช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่อุตสาหกรรมยังพึ่งพาแรงงาน-ผลาญทรัพยากร-สิ่งแวดล้อมมากมายมหาศาล!
ขณะที่ความก้าวหน้าการปรับตัวของเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่วันนี้ ต่างจากโลกเก่าอย่างสิ้นเชิง อุตสาหกรรมยุค 4.0 เป็นอุตสาหกรรมสะอาด-ช่วยดูแลเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม-ลดการใช้ทรัพยากร-ช่วยลดหรือหยุดการทำงานที่น่าเหนื่อยหน่ายและอันตรายของผู้คน เป็นอุตสาหกรรมที่ผสมผสานความก้าวหน้าของเทคโนโลยี-นวัตกรรมการสื่อสารยุคใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างความก้าวหน้าให้ผู้คนด้วยความรู้ทักษะใหม่-ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าโลกเก่า!
โลกใหม่-มีความก้าวหน้าเติบโตที่ส่งผ่านถึงผู้คน สังคม เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตในบ้านเมืองแบบสัมพัทธ-มีปฏิสัมพันธ์เชื่อมโยงผ่านการดำรงชีวิตและสังคมแบบถึงก้นครัว! มีเทคโนโลยีเชื่อมต่อเปลี่ยนสังคมแบบเดิมผ่านโครงข่ายเชื่อมถึงกัน-มีผลต่อกันและกันในทุกภาคส่วนของสังคม ตั้งแต่บริการของรัฐไปจนถึงความช่วยเหลือเฉพาะตัวของคนในแต่ละถิ่นย่าน-แต่ละชุมชน นี่คือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับผู้คนและบ้านเมืองในทุกระดับอย่างมีนัยสำคัญ การมองถึงประโยชน์โพดผลในการพัฒนาวันนี้จึงต้องมองแบบเชื่อมโยง-ไม่มองเฉพาะคน-เฉพาะกลุ่ม
ความเคลื่อนไหวสร้างความก้าวหน้าใหม่ในเขตพัฒนาพิเศษแบบ EEC นั้น เป็นการขับเคลื่อนสร้างความเปลี่ยนแปลงหลากมิติ-ครอบคลุมเศรษฐกิจ-สังคม-คุณภาพชีวิตในพื้นที่และท้องถิ่นโดยรวม มุ่งทำให้โลกแบบเดิมที่หยุดนิ่งอยู่กับที่-ขยับสร้างความก้าวหน้าใหม่ กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายในด้วยการเสริมทักษะ-สั่งสมความรู้-พัฒนาคน-พัฒนาความเข้าใจเทคโนโลยีผ่านการปรับฐานสาธารณูปโภคและการลงทุน! ซึ่งจะก่อรูปการเปลี่ยนแปลงขึ้นตั้งแต่ชีวิตท้องถิ่นถึงเศรษฐกิจมหภาคที่เชื่อมประสานการลงทุนจากภายนอกสู่ภายใน! ขับเคลื่อนสร้างโอกาสใหม่ผู้คนและบ้านเมือง-ดึงเศรษฐกิจ-สังคมที่เคลื่อนอยู่แบบเดิมๆ ออกจากความนิ่งเฉื่อย-สู่โอกาสใหม่…น้ำนิ่งถ้านิ่งนานก็กลายเป็นน้ำเน่า!
ความเคลื่อนไหวใน EEC ได้สร้างประโยชน์โพดผลกับผู้คนและชุมชน-เบ่งบานคู่กับการเติบใหญ่ก้าวหน้าของการพัฒนาในพื้นที่ EEC อย่างมีนัยสำคัญ! เริ่มจากเรื่องคน-ทรัพยากรบุคคล-และการศึกษา ที่จำเป็นยิ่งที่ต้องปรับฐานความคิดเทคโนโลยีผ่านไปสู่การทำงาน-การลงทุน ที่เป็นพลังและฐานสำคัญในการปรับตัวเปลี่ยนผ่านของภาคอุตสาหกรรมใหม่! EEC ได้กระตุ้นสร้างความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาทั้งในและนอก EEC ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมฯ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม ยกระดับปรับความรู้-ทักษะ-พัฒนาสร้างสรรค์ความรู้-ทักษะ-ความชำนาญการใหม่ที่เหมาะกับการงานและความก้าวหน้าของเทคโนโลยี โดยเชื่อมการศึกษาสู่การสร้างการศึกษาแบบเรียนฟรี มีงานทำ รายได้สูง ตรงตามความต้องการและความก้าวหน้าใหม่
ความเคลื่อนไหวในการสร้าง-การปรับตัวเปลี่ยนแปลงด้านการพัฒนาคนและการศึกษานี้เป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญที่สร้างคุณค่าและมูลค่ามหาศาลให้ผู้คน สถาบันการศึกษา และระบบการศึกษาโดยรวม เป็นความก้าวหน้าใหม่ที่ยังประโยชน์ต่อผู้คนและสังคมที่ต่อยอดทบเท่าทวีคูณไปข้างหน้าให้เกิดกับผู้คน-สังคม-เศรษฐกิจใหม่แบบไม่เลือกชนชั้น-ถิ่นฐาน ส่งผลในการช่วยพัฒนาความก้าวหน้าของอาชีพการงานให้เกิดขึ้นจากฐานความรู้ทักษะและเทคโนโลยีใหม่ ที่ช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนการลงทุนอุตสาหกรรมใน EEC ที่มีการลงทุนกว่า 1.9 ล้านล้านบาท จากรายงานล่าสุดของ EEC
การปรับสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานทั้งเมืองการบิน รถไฟความเร็วสูง ท่าเรือขนสินค้า 2 ท่า ท่าเรือพาณิชย์ การขยายและเชื่อมต่อถนน และยกระดับปรับฐานการสื่อสารแบบ 5G ฯลฯ สาธารณูปโภคพื้นฐานดังกล่าวนี้สร้างประโยชน์ให้ผู้คนท้องถิ่นและต่อการลงทุนสร้างมากมหาศาล มีการคิดคำนวณทางเศรษฐกิจว่าการลงทุนใน EEC ตามเป้าหมาย จะช่วยให้จีดีพีของประเทศขยายตัวใน 10 ปี ที่จะยกระดับรายได้ของผู้คนให้พ้นกับดักรายได้ปานกลาง!
นอกนั้นยังมีความเคลื่อนไหวอีกมากมาย ในการพัฒนายกระดับเมือง-พัฒนาเศรษฐกิจเมือง-เศรษฐกิจท่องเที่ยว EEC มุ่งปรับสร้างคุณภาพสังคม เศรษฐกิจ สร้างงานรองรับการเติบโตปรับตัวใหม่ของเมือง โดยมุ่งปรับฐาน 13 ท้องถิ่นเดิมใน EEC เป็นเมืองท่องเที่ยว-เมืองน่าอยู่แบบเวลเนส สร้างมูลค่าเพิ่มและคุณภาพชีวิตให้ผู้คน-ท้องถิ่นได้ประโยชน์จากความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงที่ร่วมกันสร้างทำขึ้น และยังมีการสร้างสมาร์ทซิตี้รองรับการเติบโตขยายตัวของเมืองสู่อนาคต เป็นเขตเมืองเก่า 5 เมือง เป็นเขตเมืองใหม่ 6 เมือง และมีมหานครแบบศูนย์ธุรกิจ EEC เมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะพื้นที่ 1.5 หมื่นไร่ 1 เมือง รองรับการขยายตัวการอยู่อาศัย-การเดินทาง-การขยายตัวของธุรกิจใหม่
หลายพื้นที่ซึ่งรกร้าง-เสื่อมโทรมได้อาศัยภาคอุตสาหกรรม-สร้างเศรษฐกิจอุตสาหกรรมใหม่มูลค่าสูง-สร้างศักยภาพการพัฒนา-สร้างงานใหม่ขึ้น เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสให้ได้รับประโยชน์ร่วมกันมหาศาล เปลี่ยนการเกษตรไร้อนาคต-เกษตรรายได้ต่ำ-เกษตรล้มลุกคลุกคลานเป็น Smart Farmer – Smart Farm พัฒนาเข้าสู่แพลตฟอร์มการค้าใหม่ที่มีอนาคต-รายได้ดีกว่าเดิม ช่วยสนับสนุนเกษตรกรให้ปรับตัวดูแลสภาพแวดล้อม-ลดการบริโภคทรัพยากรในระบบการผลิตให้ลดลงกว่าเดิมมาก ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นประโยชน์โพดผลมหาศาลที่เกิดจากความเคลื่อนไหวการพัฒนา EEC ที่เกิดกับผู้คน ท้องถิ่น และบ้านเมืองร่วมกันทั้งสิ้น.