ในพื้นที่จ.นครศรีฯ ที่เสียหายหนักจากฤทธิ์พายุโซนร้อน หลังซ่อมแซมเรียบร้อยเสร็จ ส่งมอบให้เจ้าของบ้าน
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) จัดพิธีส่งมอบบ้านแก่ผู้ประสบภัยพิบัติพายุโซนร้อน “ปาบึก (PABUK)” ในพื้นที่อำเภอหัวไทร และอำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช 5 หลัง ซึ่งดำเนินการซ่อมแซมโดยนักเรียน นักศึกษาแผนกวิชาช่างก่อสร้าง วิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช และวิทยาลัยการอาชีพหัวไทร
นายอรรถพล สังขวาสี ผู้อำนวยการสำนักความร่วมมือ กล่าวว่า จากเหตุพายุโซนร้อนปาบึกที่ถล่มพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย ส่งผลให้บ้านพักของประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชได้รับความเสียหายอย่างมาก สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จึงได้จัดศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน (Fix it Center) ออกให้บริการซ่อมแซมบ้านพัก อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องจักรกลทางการเกษตร รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ บริการอาหาร และน้ำดื่ม พร้อมทั้งจัดบริการศูนย์พักพิงแก่ผู้ประสบภัย ซึ่งดำเนินการโดยสถานศึกษาของอาชีวศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช และได้รับการสนับสนุนเงินงบประมาณส่วนหนึ่งจากบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) จำนวน 125,999 บาท (หนึ่งแสนสองหมื่นห้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทถ้วน) ในการซ่อมแซมบ้านพักแก่ผู้ประสบภัย
ขณะนี้บ้านพักที่ได้รับเงินสนับสนุนส่วนหนึ่งจากบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เพื่อซ่อมแซมโครงสร้างหลังคา และเปลี่ยนกระเบื้องที่ได้รับความเสียหาย พร้อมส่งมอบแก่ผู้ประสบภัยเรียบร้อยแล้ว 5 หลัง ประกอบด้วยพื้นที่เทศบาลตำบลหน้าสตน ต.หัวไทร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช3 หลัง ซึ่งซ่อมแซมโดยนักเรียน นักศึกษาแผนกวิชาช่างก่อสร้าง วิทยาลัยการอาชีพหัวไทร ได้แก่ บ้านของนางสาวจันทร์เพ็ญ หนูทองแก้ว บ้านเลขที่ 279/2 หมู่ 8 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช นายจิระวัฒน์ หนูทองแก้ว บ้านเลขที่ 279/1 หมู่ 8 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช และนางเรวดี หนูทองแก้ว บ้านเลขที่ 279 หมู่ 8 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช และในพื้นที่เทศบาลตำบลปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช 2 หลัง ซึ่งซ่อมแซมโดยนักเรียน นักศึกษาแผนกวิชาช่างก่อสร้าง วิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช ได้แก่ บ้านของนางอรศา สุทธิพล บ้านเลขที่ 98/3 ม.1 ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และบ้านของนางประนอม สมหมาย 98/1 ม. 1 ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ ความร่วมมือของภาคเอกชนในการสนับสนุนการจัดการอาชีวศึกษา จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการศึกษาสายวิชาชีพให้มีศักยภาพ นำไปสู่การผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาที่มีคุณภาพควบคู่ไปกับความมีจิตอาสา มีคุณธรรม ซึ่งจะทำให้ประเทศชาติเกิดความมั่นคงต่อไป
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ