นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กล่าวถึงกรณีที่นายรังสิมันต์ ยาละ ผู้อำนวยการโรงเรียนไทรน้อย ยื่นฟ้อง คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ต่อศาลปกครองกลางให้เพิกถอนหลักเกณฑ์การย้ายผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตาม ว24/2560 กรณีกำหนดคุณสมบัติของผู้ยื่นคำร้องขอย้ายตามข้อ 1.1และข้อ 1.3ใหม่ตามว 24 ดังนี้
1.1 ผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา หรือรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและได้ปฏิบัติงานในตำแหน่งดังกล่าว ในสถานศึกษาปัจจุบันติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 24 เดือน นับถึงวันที่ 30 กันยายนของปีที่ยื่นคำร้องขอย้าย ทำให้ผู้บริหารสถานศึกษาที่ได้รับการพิจารณาย้ายในรอบการย้ายปี 2559 ทั่วประเทศจะไม่สามารถเขียนคำร้องขอย้ายในรอบปี 2561 ได้ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เพราะบางเขตพื้นที่ฯดำเนินการย้ายเรียบร้อยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 แต่บางเขตพื้นที่ฯ ย้ายเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2559 หากกำหนดให้นับถึงวันที่ 30 กันยายนของปีที่ยื่นคำร้องขอย้าย ก็จะทำให้ผู้ที่ย้ายในเดือนพฤศจิกายน 2559 เสียสิทธิในการย้ายรอบนี้ทันที ว่า ได้ทราบจากข่าว แต่ยังไม่เห็นรายละเอียดคำฟ้อง
อย่างไรก็ตามตามขั้นตอนศาลก่อนที่จะรับคำร้อง จะต้องส่งหนังสื่อให้สำนักงานก.ค.ศ. ทำคำให้การก่อน ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การย้ายผู้บริหารสถานศึกษาสังกัด สพฐ. และคุณสมบัติต่าง ๆ ตาม ว24 กำหนดไว้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2559 ขณะที่ หลักเกณฑ์ตามว9 เดิม กำหนดให้การย้ายเสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม สาเหตุเพราะนอกจากอัตราว่างแล้ว ยังมีเรื่องการขอใช้อัตราเกษียณในปีนั้นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
เลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวต่อไปว่า สาเหตุหนึ่งที่ก.ค.ศ. ขอให้ย้ายในรอบปี 2559 ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 25 ตุลาคม เพราะเดือนพฤศจิกายนตรงกับช่วงเปิดภาคเรียน เจตนาจึงต้องการให้กระบวนการย้ายผู้บริหารแล้วเสร็จก่อนเปิดเทอม เพราะโรงเรียนจะต้องมีผู้บริหาร แต่ยอมรับว่า ตามข้อเท็จจริง ทางปฏิบัติ อาจจะมีบางเขตพื้นที่ฯ หรือบางจังหวัด ดำเนินการไม่ทันแล้วไปย้ายเสร็จในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งประเด็นนี้อาจต้องพิจารณาเป็นกรณีๆ ซึ่งเรื่องนี้ไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะขณะนี้ศาลยังไม่ส่งให้ทางก.ค.ศ. แก้คำฟ้อง รอให้ศาลพิจารณาก่อน แต่ระหว่างนี้หลักเกณฑ์การย้าย การบรรจุแต่งตั้งและการสรรหา สพฐ. ยังสามารถดำเนินการได้ ยกเว้นจะกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ จะต้องเสนอให้คณะกรรมการก.ค.ศ. พิจารณาก่อน
“ตอนนี้ผมยังตอบไม่ได้มาก เพราะศาลยังไม่ส่งคำฟ้อง มา ให้ก.ค.ศ. ทำคำให้การ เพราะโดยกระบวนการก.ค.ศ. ต้องชี้แจงก่อน ว่า การดำเนินการของก.ค.ศ. ไปลิดรอนสิทธิของผู้ฟ้องอย่างไร ส่วนกรณีที่ผู้ฟ้องขอให้ตัดคุณสมบัติเรื่องการกำหนดระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง 24 เดือนออกและกลับไปกำหนดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งตาม ว 9 ซึ่งกำหนด ให้ปฏิบัติงานในตำแหน่งในสถานศึกษาปัจจุบันติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือนนับถึงวันที่ยื่นคำขอย้าย หรือ ขยายเวลาให้นับถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน เพื่อให้กลุ่มที่ย้ายในเดือนพฤศจิกายน 2559 ไม่เสียสิทธิ สามารถนับเวลาปฏิบัติงานได้ครบ 24 เดือน หรือถ้าเป็นไปได้อยากขอให้ยกเลิก ว24 และกลับมาใช้ว9 ตามเดิม นั้น ก.ค.ศ. คงต้องยึดตามหลักทั่วไป ซึ่งโรงเรียนจะเปิดเทอมในเดือนพฤศจิกายน และส่วนใหญ่ต้องการนำอัตราเกษียณมาใช้ในการรับย้ายด้วย ซึ่งตามกรอบให้ยื่นคำร้องให้แล้วเสร็จตั้งแต่เดือนสิงหาคม และให้ดำเนินการย้ายให้แล้วเสร็จในเดือนตุลาคม หากเป็นตามกรอบเวลาดังกล่าว ทางก.ค.ศ. คิดว่าจะเกิดประโยชน์กับทางราชการมากกว่า” นายพินิจศักดิ์ กล่าวและว่า
ทั้งนี้ ตาม ว9 กำหนดให้แล้วเสร็จในวันที่ 25 ตุลาคม ในส่วนกรณีของระยะเวลาการปฏิบัติงานในตำแหน่งในสถานศึกษา ที่เพิ่มจาก ว9 ที่กำหนดไว้ 12 เดือน เป็น 24 เดือนนั้น ก.ค.ศ. ในขณะนั้นมองว่า ผู้บริหารสถานศึกษา ควรได้อยู่ปฏิบัติงานมากกว่า 12 เดือนในโรงเรียนแห่งเดิม จึงกำหนดเพิ่มเป็น 24 เดือน ไม่เช่นนั้น ก็จะเกิดปัญหาผู้บริหารขอย้ายทุกปี ทำให้ไม่สามารถพัฒนาโรงเรียนได้อย่างเต็มที่
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ