โรงเรียนผู้สูงอายุ ศาสตร์เพื่อชีวิตที่เป็นสุข
สังคมไทยกำลังเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) จากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของกลุ่มประชากรผู้สูงอายุ ในประเทศไทยมีจำนวนเกือบ 10 ล้านราย หรือคิดเป็นร้อยละ 16 ของประชากรในประเทศ และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสวนทางกับแนวทางการจัดการคุณภาพชีวิต ทั้งในด้านร่างกาย จิตใจและสังคมของผู้สูงอายุในไทย ที่ยังคงขาดความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว เห็นได้จากสังคมส่วนใหญ่มองว่าผู้สูงอายุเป็นวัยที่ไม่เหมาะกับการกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จึงมักถูกทอดทิ้งให้อยู่ในที่พักอาศัยเพียงลำพัง
ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดโรคทางจิตและปัญหาด้านการดูแลตนเอง อาทิ โรคซึมเศร้า และการหกล้มในผู้สูงอายุ ซึ่งแท้จริงแล้วผู้สูงอายุและวัยเกษียณยังคงมีศักยภาพและพร้อมที่จะพัฒนาตนเอง รวมทั้งยังเป็นวัยที่มีเวลาว่างและมีภาระหน้าที่น้อย เพียงแต่ยังคงขาดความรู้สมัยใหม่ อาทิ นวัตกรรมและเทคโนโลยี รวมทั้งยังคงขาดความรู้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนการดำเนินชีวิต อาทิ สิทธิของผู้สูงอายุตามกฎหมาย การวางแผนทางการเงินให้เหมาะสม ดังนั้นการส่งเสริมความรู้ใหม่ ๆ ให้กับผู้สูงอายุ จึงเป็นแนวทางการพัฒนาวัยเกษียณให้มีคุณภาพ
จากเหตุและผลข้างต้นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) จึงเปิดโรงเรียนผู้สูงอายุ พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุรอบด้าน 3 มิติ ความรู้ที่ผู้สูงอายุต้องรู้ ความรู้ที่ผู้สูงอายุควรรู้ และความรู้ที่ผู้สูงอายุอยากรู้ เพื่อรองรับสภาพสังคมผู้สูงอายุ
ผศ.ดร.ศุภชัย ศรีสุชาติ ผู้อำนวยการสถาบันเสริมศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ มธ. กล่าวถึงการจัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุ เพื่อรองรับจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย และพัฒนาศักยภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุอย่างรอบด้าน โดยมุ่งหวังให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้นำวิชาความรู้ ไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและเป็นการลดปัญหาทั้งด้านร่างกาย จิตใจและสังคม จากการถ่ายทอดความรู้โดยคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์ต่าง ๆ ทั้งจากธรรมศาสตร์ และวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก ผ่านการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ผ่านความรู้ทั้ง 3 มิติ
มิติแรก ความรู้ที่ผู้สูงอายุต้องรู้ โดยเน้นความรู้ด้านสุขภาพ เพื่อการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของผู้สูงอายุอย่างยั่งยืน โดยมีรายวิชา อาทิ โภชนาการที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ การดูแลสุขภาพฟันและการฝึกกายภาพบำบัดในทุกเช้า มิติที่สอง ความรู้ที่ผู้สูงอายุควรรู้ โดยเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับสภาพสังคมในปัจจุบัน เศรษฐกิจและเทคโนโลยี รวมทั้งแนวทางการดำเนินชีวิตในวัยชรา ผ่านรายวิชา อาทิ เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารสำหรับผู้สูงอายุ กฎหมาย สิทธิและสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ สัจธรรม ชีวิตและความตาย และศาสตร์พระราชา “ชีวิตที่เป็นสุข”
และมิติที่สาม ความรู้ที่ผู้สูงอายุอยากรู้ โดยความรู้ในมิตินี้ ผู้ร่วมโครงการจะเป็นกำหนดเอง เพื่อให้ตรงกับความสนใจของตนเองมากที่สุด โดยเน้นไปในแนวทางการส่งเสริมอาชีพ อาทิ กิจกรรมสอนทำอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน และกิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ เพื่อความผ่อนคลาย อาทิ กิจกรรมการเต้นลีลาศเพื่อสุขภาพ รวมทั้งการทัศนศึกษาภายนอก อาทิ การศึกษาดูงานโครงการบ้านปลอดภัยสำหรับผู้สูงวัย และมีการร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสาซึ่งแสดงถึงศักยภาพและความสามารถ ศักดิ์ศรีของผู้สูงอายุที่พร้อมจะทำกิจกรรมเพื่อสังคม
ด้านผู้เรียนโรงเรียนผู้สูงอายุ “คุณสุรภา ธรรมสัมคีติ” วัย 75 ปี กล่าวว่า โรงเรียนผู้สูงอายุของธรรมศาสตร์นั้น แตกต่างจากหลักสูตรสำหรับผู้สูงอายุในหลายที่ เพราะไม่ได้มีเพียงกิจกรรมสันทนาการให้ความบันเทิงเท่านั้น แต่ที่นี่ได้ให้ความรู้ผู้สูงอายุครอบคลุมทุกศาสตร์ที่มีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิต สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันและนำไปวางแผนการใช้ชีวิตในอนาคต
การเรียนในโรงเรียนผู้สูงอายุ เปรียบเสมือนการฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
เราได้รับความรู้ใหม่ ๆ เป็นการฝึกสมอง ป้องกันการเป็นโรคอัลไซเมอร์ที่ดีวิธีหนึ่ง อีกทั้งการได้รับความรู้เกี่ยวกับการทำกายภาพบำบัด นับเป็นประโยชน์ในการดูแลตัวเองอย่างมาก สามารถลดการพึ่งพาบุตรหลานและพยาบาล อีกด้วย ขณะที่สภาพจิตใจก็ถูกเติมเต็มมากขึ้น จากการได้พบปะเพื่อนร่วมชั้นเรียน ได้พูดคุย สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า เพราะเราไม่ได้อยู่ลำพังอีกต่อไป”
นอกจากโรงเรียนผู้สูงอายุแล้ว ธรรมศาตร์ยังมีแนวคิดเปิดโครงการธรรมศาสตร์ตลาดวิชา (GENEX-ACADEMY) เพื่อเปิดโอกาสให้วัยทำงานและวัยเกษียณสามารถเข้าคอร์สเรียนเพิ่มเสริมทักษะ (Re-training) เพื่อทบทวนความรู้เดิม รวมทั้งแสวงหาความรู้ใหม่ ตามความต้องการได้อย่างไร้ขีดจำกัด เพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้เท่าทันปัจจุบันและไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาตนเอง
โดย รศ.ดร.ชาลี เจริญลาภนพรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มธ. กล่าวเสริมถึงหลักสูตร Re-training จะเป็นหลักสูตรที่มีความต้องการของภาคแรงงาน เพื่อรองรับยุทธศาสตร์ชาติอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีแนวคิดให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้โดยการเรียนแบบออนไลน์ และไม่จำกัดวุฒิ และอายุของผู้เรียน อีกทั้งยังสามารถรับประกาศนียบัตร อนุปริญญาหรือปริญญาบัตร ตามข้อกำหนดของแต่ละหลักสูตรอีกด้วย
โรงเรียนผู้สูงอายุธรรมศาสตร์ เปิดสอนแล้วทั้งที่ศูนย์รังสิต ตั้งแต่บัดนี้ถึง 3 ก.ย.2561 (เรียนเฉพาะวันจันทร์ และพฤหัสบดี) และที่ท่าพระจันทร์ เปิดสอนถึง 7 ก.ย.2561 (เรียนเฉพาะวันพุธ และศุกร์) รับ 60 คนต่อรุ่น มีค่าลงทะเบียนอบรม 2,000 บาทต่อคน ซึ่งรวมค่าเอกสาร อาหารว่างและเครื่องดื่ม อาหารกลางวัน การศึกษาดูและวุฒิบัตร ติดต่อสอบถามโทร.0-2564-4493 หรือเว็บไซต์ www.tu.ac.th/news
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ