ชู”ห้องเรียนสีเขียว”พลิกสถานการณ์สร้างโอกาส “เปลี่ยนการสอนครู” ใช้กิจกรรมเสริมวุฒิภาวะนักเรียน โดยสร้างเงื่อนไขให้เด็กตัดสินใจ
ผศ.ดร.ธนวันต์ สินธุนาวา นายกสมาคมพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวตอนหนึ่งในการบรรยายพิเศษเรื่อง “การบริหารจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อมภายในสถานศึกษาอย่างยั่งยืนและทิศทางการดำเนินงานโครงการห้องเรียนสีเขียว” ภายในการอบรมครูวิทยากรแกนนำค่าย Green School Camp : ห้องเรียนสีเขียวรักพลังงาน รุ่นที่ 4 ระหว่างวันที่ 7-10 พ.ค. ณ เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฏร์ธานี จัดโดยสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ว่า ถ้าจะทำให้ประเทศชาติอยู่รอดต่อจากนี้ไป ครูต้องสอนให้เด็กฉลาดกว่าครู ต้องเปลี่ยนวิธีการสอนใหม่ โดยนำกิจกรรมเข้าไปใส่ ซึ่งนโยบายสำคัญของชาติขณะนี้ คือการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงานอย่างรู้คุณค่า การใช้ชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เฉกเช่นในหลายประเทศสร้างความตระหนักในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ประเทศอังกฤษ รณรงค์เลิกใช้หลอดกาแฟ ประเทศเคนย่าและบังคลาเทศ เลิกใช้ถุงดำ ถุงพลาสติก เพราะการนำขยะใส่ถุงดำเป็นการอำนวยความสะดวกในการเก็บขนย้ายขยะเท่านั้น แต่เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมและที่ผิดหนักไปกว่านั้นคือการที่บ้านเรือนนำถุงก๊อปแก็ปใส่ขยะแล้วผูกถุงซึ่งไม่มีอ๊อกซิเจนเข้าไปทำให้เกิดก๊าซมีเทน ที่รุนแรงกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 23 เท่า ส่งผลให้เกิดโลกร้อน หรือการล้างจานโดยทิ้งเศษอาหารลงสู่ท่อระบายน้ำทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก
ผศ.ดร.ธนวันต์ กล่าวต่อไปว่า ถ้าเราก้าวเดินมาในทางที่ผิดอย่างยาวนานแล้วจะแก้ไขอย่างไร เมื่อไม่บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) ที่ประชาคมโลกตกลงร่วมกันที่จะใช้เป็นกรอบในการดำเนินงานด้านการพัฒนา โดยเป้าหมายทั้ง 17 ข้อ โดยเฉพาะข้อ 12 แผนการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืนที่ต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะในแต่ละวันเราสร้างรอยเท้าที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไรเด็กจะรับรู้ ดังนั้น โรงเรียนต้องบอกเด็กให้หยุดใช้หลอด ขวดพลาสติก ถุงดำ ถุงพสาสติก และวันนี้โรงเรียนเข้าร่วมโครงการห้องเรียนสีเขียวรักพลังงาน มีอุปกรณ์ให้ทำกิจกรรมได้มาก และถึงเวลาแล้วที่จะเปลี่ยนเป็นครูคนใหม่ เลิกเป็นครูที่สอนจนเหนื่อยหนัก ต่อไปนี้ ต้องทำให้เด็กคิดได้ ครูต้องตอบคำถามเด็กด้วยคำถามเสมอ ลดและเลิกการตอบคำถามเด็กด้วยคำตอบ เพราะวิธีการดังกล่าวที่ทำมาหลายปีบั่นทอนเด็ก ทำให้เด็กเลิกคิด และครูต้องหยุดเป็นตัวสำเร็จให้เด็ก เพราะกระบวนการคิดจะไม่เกิดขึ้น ต้องทำให้เด็กมีวุฒิภาวะเร็วขึ้นกระตุ้นให้เขาเกิดความคิดทุกขั้นตอน ซึ่งเด็กจะเกิดความคิดเมื่อมีการตัดสินใจ
“การจัดกิจกรรมห้องเรียนสีเขียวจากนี้เป็นต้นไป ครูจะรวมศูนย์การจัดการไม่ได้ ต้องกระจายบทบาทให้เด็ก สร้างเด็กให้มีวุฒิภาวะ โดยการสร้างเงื่อนไขให้เด็กตัดสินใจโดยการใช้กิจกรรม เพื่อให้เด็กได้คิด แสดงออกและมีส่วนร่วมให้มากขึ้น เช่น ตั้งโจทย์สัปดาห์พกพาผ้าเช็ดหน้า เพื่อสร้างเสริมนิสัยการใช้ซ้ำ การจัดพิธีไหว้ครูโดยลดการใช้คาร์บอน หรือการจัดกีฬาสีที่ต้องให้ขยะเป็นศูนย์ ลดการแจกแก้วน้ำ หลอดน้ำ ถุงดำ อย่าใช้โรงเรียนเป็นเพียงฐานการเรียนรู้ แล้วใช้โรงเรียนเป็นที่ทิ้งขยะตรงนี้คือโจทย์ที่เป็นวัตถุประสงค์สำคัญที่ครูต้องสร้างเงื่อนไขในการเรียนรู้ให้เด็กคิดเป็น”ผศ.ดร.ธนวันต์ กล่าว
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ