จากผลสำรวจโดยโครงการป้องกันและชะลอโรคไตเรื้อรัง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) กลุ่มสำรวจประชาชน 100 คน พบว่าเป็นโรคไตเสื่อม 26 คน ในจำนวนนี้มี 17 คน เป็นโรคไตเสื่อม โดยที่ไม่มีโรคประจำตัว แต่เกิดจากการพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เช่น กินเค็ม หรือรับประทานยาชุดติดต่อกันเป็นเวลานาน
…จึงคิดค้นโปรแกรม Food & Nutrition เพื่อแก้ปัญหาสาธารณสุขแก่ประชาชนในภาคอีสาน โดยสถาบันยุทธศาสตร์และประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นโครงการน้องใหม่ ที่มีเป้าหมาย 1 ปีชะลอหรือลดโรคไตเสื่อม …โดยโปรแกรม Food & Nutrition จะวัดปริมาณเกลือในอาหาร ที่ควรจะได้รับต่อวัน ซึ่งข้อมูลนี้จะถูกส่งไปยังโรงพยาบาล เพื่อวางแผนการรับมือต่อ โดยทั้งหมดนี้อาศัยองค์ความรู้ที่เกิดจากการเรียนการสอน การวิจัย จาก มข.เพื่อร่วมกันพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวอีสานให้ดียิ่งขึ้น
รศ.พญ.ศิริรัตน์ อนุตระกูลชัย ผอ.โครงการป้องกันและชะลอโรคไตเรื้อรังฯ ด้วยโปรแกรม Food & Nutrition เปิดเผยว่า โปรแกรม Food & Nutrition มีโมเดลจากโครงการแก้ไขปัญหาโรคพยาธิใบไม้ในตับ และมะเร็งท่อน้ำดี ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของ รศ.นพ.ณรงค์ ขันตีแก้ว ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว สำหรับโครงการป้องกันและชะลอโรคไตเรื้อรังฯ ด้วยโปรแกรม Food & Nutrition มุ่งหวังที่จะหยุดยั้งหรือรู้ทันโรคเพื่อการรักษาได้ทันเวลา
ซึ่งจะแบ่งการทำงานเป็น 3 ส่วนหลัก ส่วนแรกลงพื้นที่เพื่อคัดกรองประชาชนกลุ่มเสี่ยงเป็นโรคไตเสื่อม จากผู้ที่เคยมีประวัติเป็นโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคอ้วน หรือผู้ซื้อยากินเป็นประจำ ส่วนต่อมา คือการรักษาเยียวยา สำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่เกิดโรคไตเสื่อมระยะ 2-3 แล้ว ด้วยการให้ความรู้ วิธีปฏิบัติตน วิธีพบแพทย์ ในการช่วยชะลออาการที่เกิดจากโรคไตเสื่อมและรับตัวเป็นผู้ป่วยในโครงการฯ และส่วนสุดท้าย การให้ความรู้กับญาติคนดูแลผู้ป่วย และแม่ค้าขายอาหารเพื่อให้ได้ทราบว่าการปรุงอาหารเค็มเป็นสิ่งที่ไม่ดี
โปรแกรม Food & Nutrition อาจต้องใช้เวลานานที่อาการของโรคจะดีขึ้น แต่เชื่อเถอะว่ามันจะให้ผลดีระยะยาว อย่างคุณดารา หนองผือ ชาวอำเภออุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น อดีตผู้ป่วยโรคไตระยะ 5 ตลอดชีวิตมีความสุขกับการกินอาหารรสจัดจ้าน หวาน มัน เค็มปลาร้า โดยไม่มีสัญญาณความผิดปกติใดๆ กระทั่งปีที่ผ่านมา มีอาการเหนื่อยล้า หายใจไม่สะดวก แพทย์ตรวจพบค่าไตขั้นสูงสุด คือระยะ 5 (ระยะฟอกไต) แต่ไม่สามารถเข้าสู่ระบบรักษาอย่างเต็มรูปแบบได้ เพราะค่าใช้จ่ายสูงราว 2 แสนบาทต่อปี ทว่าตอนนี้เหมือนคนละคน อาการดีขึ้นหลังเข้าร่วมโปรแกรมฯ
“ป้าตัดสินใจเข้าร่วมโครงการเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอยู่ หมั่นออกกำลังกาย ทานอาหารรสจืด งดปรุงแต่ง งดผงชูรส ตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในระยะเพียง 4 เดือน ค่าไตจาก 5 ลดลงมาเหลือ 4 และมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ ดีใจมากที่ไม่ต้องฟอกไต ซึ่งโครงการนี้ ก็ให้บริการฟรี จึงอยากฝากพี่น้องชาวอีสาน และทั่วไทย ลดใช้น้ำปลา น้ำตาลลง กินอาหารอย่างระวัง”
ปัจจุบันโรคไตเสื่อมเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ โดยต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ โรงพยาบาล ผู้นำชุมชน ประชาชน ร้านอาหาร และอุตสาหกรรมอาหาร โดยคาดว่าจะมีการขยายความร่วมมือให้ทั่วภาคอีสาน และกระจายทั่วประเทศในอนาคต สำหรับประชาชนสามารถลงทะเบียน ตรวจสอบประเมินพฤติกรรมว่าตนมีแนวโน้มเป็นโรคไตเสื่อม ได้ที่ https://ckd.kku.ac.th/food/ หรือสอบถามข้อมูลเพื่อเข้าร่วมโครงการ ที่สถาบันยุทธศาสตร์และประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มข. อาคารพิมล กลกิจ ชั้น 3 โทร.043-202-167
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ