ลุ้นสัปดาห์หน้า”บิ๊กศธ.”ใช้มาตรการ คสช.1 ราย เป็นใคร??
วันที่ 20 เม.ย.2561 นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา หรืออะควาเรียม วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ จ.สงขลา ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้คณะกรรมการตรวจสอบฯ ได้การหารือร่วมกันเป็นครั้งที่ 4 โดยที่กรรมการที่เป็นผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ฝ่ายกฎหมายของ สำนักงานปลัด ศธ. พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ทั้งข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่ และเอกสารที่ได้จาก สอศ. วิทยาลัยประมงฯ ร่วมกว่า 26 แฟ้ม
โดยในส่วนของคณะกรรมการตรวจสอบฯ จะหาข้อมูล เพื่อให้ได้ความชัดเจนมากที่สุด โดยเน้นดูจากเอกสารเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ละเอียด และตรงกับประเด็นปัญหา โดยเฉพาะเรื่องการกำหนดสัญญาจ้างและการกำหนดรูปแบบรายการ ว่ามีความสอดคล้องกันหรือไม่ เช่น รูปแบบรายการมีความเปลี่ยนแปลงแล้วในสัญญาจ้างมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เพราะจากการตรวจสอบพบว่า มีการแก้ไขสัญญาประมาณ 6 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2551-2557 ซึ่งจะต้องดูว่าการแก้ไขสัญญาแต่ละครั้งเป็นไปตามขั้นตอนหรือไม่ และมีเหตุผลอะไรที่ต้องปรับแก้สัญญา
นายการุณ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันคณะกรรมการตรวจสอบฯ จะดูรายละเอียดเรื่องการเบิกจ่ายเงินล่วงหน้า ซึ่งพบว่ามีการเบิกจ่ายเงินล่วงหน้าหลายครั้ง และเป็นจำนวนเงินที่มากพอสมควร อีกส่วนคือเรื่องการขยายสัญญาจ้าง ซึ่งตรงนี้เป็นประเด็นที่สามารถนำไปขยายผลต่อได้ โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้กรรมการแต่ละส่วน นำแฟ้มเอกสารในส่วนของตนเองไปศึกษารายละเอียด เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน และนำกลับมาหารือร่วมกันอีกครั้ง
“จากการตรวจสอบเมื่อมีการทำสัญญาใหม่ จะมีการขอขยายเวลา พอขยายเวลาก็ให้เบิกเงินล่วงหน้าบางส่วน ซึ่งการเบิกเงินล่วงหน้าโดยหลักถือเป็นเรื่องปกติ แต่จำนวนเงินที่เบิกมากจนผิดปกติ ซึ่งคิดว่าคณะกรรมการตรวจสอบฯ ประชุมอีกประมาณ 2-3 ครั้ง จะทราบข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ซึ่งตอนนี้ถ้าถามว่ากรณีนี้มีมูลการทุจริตหรือไม่ ก็ต้องตอบว่ามีมูล ส่วนใครจะเกี่ยวข้องบ้างนั้นยังไม่อยากระบุ แต่จะศึกษาว่าผู้ที่รับผิดชอบงานในแต่ละส่วนคือใคร จากนั้นจะเชิญมาให้ข้อมูล ซึ่งรวมทั้งภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องด้วย โดยจะพยายามสรุปข้อมูลให้ได้ภายในเดือนเดือน เม.ย.นี้”
ปลัด ศธ.กล่าวด้วยว่า ส่วนที่ รมว.ศึกษาธิการ ระบุว่าในสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุปเบื้องต้น และอาจเสนอใช้มาตรการป้องกันและปราบทุจริตในระบบราชการ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งถ้าเป็นผู้บริหารระดับสูง อาจย้ายไปสำนักนายกฯ, ระดับเจ้าหน้าที่ ให้ย้ายออกจากกพื้นที่ นั้นคาดว่าจะมี 1 ราย ที่ต้องใช้มาตรการ คสช. ส่วนเป็นระดับใดนั้นยังไม่ขอเปิดเผย
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ