หมอธี เผยใกล้สรุปผลสอบรจนา ตรวจพบเส้นทางโอนเงินเข้า 4 กลุ่มใหญ่ วอนผู้เกี่ยวข้องรีบให้ข้อมูล
วันที่ 9 เม.ย.2561 นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต วงเงินประมาณ 110 ล้านบาท โดยล่าสุดคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน(อ.ก.พ.) สำนักงานปลัด(สป.)ศธ.ได้มีมติให้ออกคำสั่งไล่ออกจากราชการ แก่นางรจนา สินที อดีตนักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ (ซี 8) สำนักส่งเสริมกิจการการศึกษา สป.ศธ. อดีตผู้ดูแลกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต พร้อมขยายผลไปยังเครือข่ายที่รับโอนเงินจากนางรจนา ว่า ตนได้เชิญนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ. และนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการ ศธ. ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงฯ มารายงานความคืบหน้าการสืบสวนฯ ซึ่งพบว่ามีความคืบหน้าไปมากใกล้จะแล้วเสร็จ พร้อมสั่งการให้ทำโฟรชาร์ท หรือแผนผังแสดงเส้นทางการทุจริต ว่ามีความเชื่อมโยงกับใครบ้าง อย่างไร
โดยขณะนี้สืบเส้นทางบัญชี เงินกองทุนที่โอนไปให้ผู้รับทุนและบุคลอื่น ตั้งแต่เดือน ส.ค.2548 จนถึง พ.ย.2560 จำนวน 1,049 บัญชีรวมเป็นเงิน 230,251,144บาท ในจำนวนนี้โอนไปเข้าบัญชีบุคคลอื่น 471 บัญชี เป็นเงิน 96,380,863 บาท คิดเป็น 40% ของจำนวนเงินทั้งหมดที่นางรจนาโอนไปให้คนอื่น โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ซึ่งขณะนี้รู้ชื่อทุกบัญชีหมดแล้ว ดังนั้นขอให้ผู้ที่รับโอนเงินไปมาให้ความร่วมมือกับ ศธ. เพื่อจะได้สอบขยายผลต่อ
ทั้งนี้ นอกจากคนนอกที่เกี่ยวข้องแล้วจากการสืบสวนฯ ยังพบว่าน่าจะมีคนใน ศธ.ระดับซี 8 ซึ่งพบเอกสารทางอ้อม ว่ามีส่วนรู้เห็นเป็นใจด้วย 1 ราย หากมีเรื่องทุจริต สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) จะดำเนินการสอบต่อ โดย ศธ.จะส่งข้อมูลไปให้
ด้าน นายอรรถพล กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 17ส.ค.2548 ถึง พ.ย.2560 กองทุนฯ ได้โอนเงินไปทั้งสิ้น 1,049 รายการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 230,251,144 บาท ในจำนวนนี้โอนเข้าบัญชีบุคคลอื่น 471 รายการ เป็นเงิน 96,380,863 บาท ซึ่งตรวจสอบแล้วเป็นบัญชีที่ซ้ำซ้อน หรือบัญชีผี 52 บัญชี สืบรู้เจ้าของแล้ว 34 บัญชี เหลืออีก 18 บัญชี ยังไม่พบว่าเป็นของผู้ใด ซึ่ง 18 บัญชีนี้กำลังส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ช่วยตรวจเช็ค
ทั้งนี้ ใน 52 บัญชี ถูกโอนไปใน 4 กลุ่ม คือ 1.โอนไปบัญชีนางรจนา และเครือญาติ ซึ่งค่อนข้างเป็นกลุ่มใหญ่ 2.แวดวงเพื่อนฝูงที่เรียนรุ่นเดียวกัน ทั้งหลักสูตรปริญญาตรี-โท บางคนมาให้การและรับสารภาพ กับกรรมการสืบสวนฯ แล้ว 3.กลุ่มองค์กรการกุศล ประเภทมูลนิธิฯ โดยพบว่าประธานมูลนิธิเป็นผู้รับโอนเงิน และนางรจนาก็มีส่วนเข้าไปเป็นคนจัดการในมูลนิธิ ซึ่งมีการโอนเงินเข้ามูลนิธิ ทั้งหมด 7 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท และกลุ่มที่ 4 นักเรียนทุนเสมาฯ ที่เคยได้รับทุนแต่จบไปแล้ว และได้เขามาติดต่อกับนางรจนา ถึงขั้นใกล้ชิดกัน มีความเคารพนับถือ เรียกนางรจนาว่า ครู และถูกนางรจนาไหว้วานขอใช้เลขที่บัญชีของเด็กเพื่อโอนเงินเข้า อีกทั้งยังให้เด็กกลุ่มนี้ไปเปิดบัญชีใหม่ บางรายเปิดบัญชีเสร็จนำบัตรเอทีเอ็มไว้ที่นางรจนา และจนถึงวันนี้ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเงินเข้าออกเท่าไร เพราะเปิดบัญชีให้ด้วยความเคารพนางรจนา โดยนางรจนาจะโอนเงินเข้าบัญชีครั้งละ 1-2 แสนบาท และให้โอนคืนครั้งละ 3-4 หมื่นบาท แล้วแต่จะสั่ง เหลือติดเงินบัญชีไว้ให้เจ้าของบัญชีเพียง 1-2 พันบาท
“ในวันที่ 10เม.ย.นี้ จะส่งชื่อไปร้องทุกข์ที่ ป.ป.ท. จำนวน 44 คน ในจำนวนนี้รวมกับ 22 รายเดิมด้วย เพราะจากการตรวจสอบพบประเด็นเพิ่มเติมไปถึงปี 2548 ซึ่งเดิมปลัด ศธ.ไปแจ้งความร้องทุกข์ว่าเกิดแค่ปี 2555 แต่จริง ๆ แล้วเริ่มตั้งแต่ปี 2548 ดังนั้น จึงต้องแจ้งใหม่และมีชื่อข้าราชการที่เกี่ยวข้อง 7 ราย แบ่งเป็น ข้าราชการสังกัด ศธ. 2 ราย, สังกัดกรุงเทพมหานคร 1 ราย, สังกัดกรมที่ดิน 1 ราย, นายทหารชั้นประทวน 1 ราย, ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ยศ. “ร.ต.ต.” 1 ราย, ครูเทศบาลในจังหวัดตาก 1 ราย พบรายใหม่ที่เกี่ยวข้องอีก 16 ราย และพบว่ามี 6 ราย ไม่เกี่ยวกับการโอนเงินแต่อยู่ในข่ายต้องสงสัย เช่น มีการเขียนเช็คสั่งจ่ายชื่อนางรจนา ขณะเดียวกันนางรจนา ก็มีการเขียนเช็คสั่งจ่ายให้กับทั้ง 6 คน ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่ข้าราชการ ขณะเดียวกันจะประสานให้ ปปง. ตรวจสอบบัญชีกระแสรายวันของนางรจนา กับธนาคารกรุงไทย ว่าเช็คที่ไม่เขียนในต้นขั้วสั่งจ่ายไปให้ใครบ้าง เพราะจากการตรวจสอบมีหลายครั้งที่มีการโอนเงินกลับจากผู้รับโอน แล้วโอนมาเข้าบัญชีกระแสรายวันของนางรจนา”
นายอรรถพล กล่าวและว่า ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง รีบเข้ามาให้ข้อมูล คนที่เข้ามาก่อนถือว่าได้เปรียบ ส่วนใครมาที่หลังถือว่ามาแก้ตัว โดยขณะนี้สอบปากคำเจ้าหน้าที่ใน ศธ. ครบหมดแล้ว เหลือแค่การเรียบเรียงสำนวนว่า ยังขาดประเด็นไหน ต้องเรียกใครมาสอบเพิ่ม ส่วนการชี้แจงข้อมูลจากอดีตปลัด ศธ.และรองปลัด ศธ.ส่วนใหญ่ขยายเวลาเพิ่มไปถึงวันที่ 25 เม.ย. เพราะพบข้อมูลเพิ่มเติมไปถึงปี 2548 จึงต้องขอเอกสารเพิ่ม
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ