รบ.ผนึกกำลังภาครัฐ-เอกชน-ประชาสังคมเปิดตัวกิจกรรมรับปิดเทอมรองรับ 450 กิจกรรม มีงานพิเศษ 3,000 ตำแหน่ง หวังดึงเด็กเยาวชนออกจากหน้าจอ หลังสำรวจพบ71% เล่นมือถือ-อินเตอร์เน็ต
เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ได้มีการจัดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ (เปิด) หน้าต่างสู่การเรียนรู้ โดยมี พล.อ.ปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยความร่วมมือขององค์กรภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม โดยพล.อ.ปัฐมพงศ์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนทุกช่วงวัยซึ่งในการพัฒนาคุณภาพเด็กและเยาวชน รัฐบาลได้มีการพัฒนาเด็กตั้งแต่ปฐมวัยที่ครอบคลุมตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ยกระดับคุณภาพครูและสถานศึกษา ล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้จัดตั้งกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพื่ออุดช่องว่างความเหลื่อมล้ำเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา สำหรับช่วงปิดเทอมที่มีช่วงเวลาเฉลี่ย 3 เดือนครึ่งต่อปี ที่เด็กเยาวชนกว่า 13 ล้านคน ต้องออกจากรั้วสถานศึกษา มีผลสำรวจที่น่าสนใจเรื่อง “ปิดเทอมนี้เด็กเยาวชนอยากทำอะไร” ในเดือนมีนาคม 2561 โดย สสส.ร่วมกับชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน จำนวน 1,760 ตัวอย่าง พบว่า กิจกรรมที่เด็กเยาวชนตั้งใจจะทำในช่วงปิดเทอม 3 อันดับแรก คือ เล่นมือถือ อินเตอร์เน็ต 71% ตามด้วยการไปเที่ยวต่างจังหวัด 53% และหางานพิเศษทำ 46%
“กิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ที่จัดขึ้นจึงมีส่วนช่วยให้เด็กเยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และตอบโจทย์นโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่จำเป็นของเด็กและเยาวชน รัฐบาลอยากให้ปิดเทอมเป็นช่วงเวลาที่ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ร่วมกันตระหนักและเห็นคุณค่าในการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ของเด็กเยาวชน โดยจัดกิจกรรมและเปิดพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กเยาวชน โดยเฉพาะการเข้าถึงของเด็กเยาวชนที่ขาดโอกาสทางสังคม จนเกิดเป็นวาระเด็กเยาวชนในช่วงเวลาปิดเทอมร่วมกัน”พล.อ.ปัฐมพงศ์ กล่าว
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า กิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ทำให้ในช่วงปิดเทอมนี้มีกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ที่กระจายทุกภูมิภาคถึง 450 กิจกรรม แบ่งเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ 200 กิจกรรม และแหล่งเรียนรู้ถึง 250 แห่ง รวมถึงการเปิดรับตำแหน่งงานพิเศษ 3,000 ตำแหน่ง และการสนับสนุนทุนเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีโอกาสคิดริเริ่มกิจกรรมที่สนใจถึง 400 โครงการตลอดทั้งปี ทั้งหมดนี้รวบรวมอยู่ในเว็บไซด์ปิดเทอมสร้างสรรค์ดอทคอม เพื่อเป็นช่องทางให้เด็ก เยาวชน และผู้ปกครอง ได้เข้าถึงกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ที่สนใจได้ง่ายขึ้น โดยสสส.ยินดีที่เป็นหน่วยประสานงานไปยังหน่วยงานต่างๆที่จัดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์และพื้นที่สร้างสรรค์เพิ่มเติมเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกัน และถอดบทเรียนรูปแบบกิจกรรมที่เหมาะสมในแต่ละกลุ่มวัยต่อไป
ดร.ปัญญา หาญลำยวง อธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเห็นความสำคัญในการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ของเด็กเยาวชนในช่วงปิดเทอมจึงมอบหมายให้กรมพลศึกษาจัดกิจกรรมร้อนนี้มีกีฬาเพื่อลูกรักและร้อนนี้มีนันทนาการเพื่อลูกรัก เพื่อให้เล่นกีฬาและนันทนาการตามความถนัดและสนใจ ได้ออกกำลังกายและได้เรียนรู้ระเบียบวินัยและเคารพกฎในกติกา โดยสนับสนุนกีฬาและนันทนาการที่กระจายอยู่ในสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจำนวน 76 แห่ง เจ้าหน้าที่พลศึกษาอำเภอทั้ง 878 อำเภอ และร่วมกับสถานศึกษาในสังกัดสพฐ.หรือโรงเรียนเทศบาล เพื่อเปิดสอนกีฬาทั้งไทยและสากล รวมทั้งกิจกรรมนันทนาการตามความสนใจของผู้เรียน ส่วนในกทม.เปิดสอนในมีสนามกีฬาแห่งชาติและศูนย์ฝึกกีฬากรมพลศึกษา
นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สนับสนุนกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์โดยได้มีการประชุมร่วมกับภาคเอกชนเพื่อขอความร่วมมือในการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์เป็นทางเลือกให้กับเด็กเยาวชนในช่วงปิดเทอม โดยเปิดรับตำแหน่งงานเพื่อหารายได้พิเศษ กว่า 3,000 ตำแหน่ง จากความร่วมมือของ 50 บริษัทเอกชนชั้นนำ ฝึกงานเพื่อค้นหาอาชีพที่ชอบ และมีการจัดค่ายส่งเสริมทักษะทางสังคมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมศักยภาพของเด็กเยาวชนไทย
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ