“สุภัทร” มั่นใจสรุปผลสืบสวน CCTV ใต้ แม่นมาก! เชื่อ”หมอธี”ต้องรู้ใครผิด-ใครถูก-ช่องโหว่ราชการทำเสียหาย
ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง การดำเนินการตรวจสอบการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด ในโครงการ Safe Zone School (CCTV) ใน 12 เขตพื้นที่การศึกษา ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ วงเงินงบประมาณ 405 ล้านบาทว่า ได้สรุปผลการสืบสวนข้อเท็จจริงไปยัง นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.60 แล้ว ซึ่งสรุปไว้เลยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.56 จนถึงข้อมูลที่สิ้นสุดวันที่ 10 ส.ค.60 มีอะไรบ้าง โดยข้อสรุปทั้งหมดจะมีประมาณ 40 กว่าหน้า แต่ตนไม่สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกได้ ต้องไปถาม รมว.ศึกษาธิการ เพราะได้สรุป และเสนอ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
“ผมไม่ได้ลงไปดูทั้ง 1,104 จุด แต่ข้อมูลที่ได้รับมา มากกว่าในสำนวนอีก ซึ่งผู้ให้ถ้อยคำเล่าให้ฟัง แต่ขอไม่บันทึกถ้อยคำ ก็สรุปได้เฉพาะที่เขาอนุญาตให้บันทึกถ้อยคำ เช่น ทำ 1-10 แต่ให้บันทึกถ้อยคำ แค่ 1-6 จึงนำมาเป็นหลักฐานในสำนวนไม่ได้ แต่ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ละช่วงเวลาจนถึงปัจจุบัน และเทียบกับข้อกฎหมาย ให้ รมว.ศึกษาธิการ แล้ว ท่านก็น่าจะวิเคราะห์ได้ว่า ใครทำถูก ใครทำผิดอะไรบ้าง และผมมั่นใจว่า ผลการสืบสวนข้อเท็จจริงของผม ค่อนข้างจะแม่นมาก ๆ และบอกได้เลยว่า มีทั้งข้าราชการที่เกษียณอายุราชการ นักธุรกิจ และสายงานอื่น ๆ ซึ่งผมไม่สามารถพูดได้ เข้ามาเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก ซึ่งตรงนี้เลยเห็นช่องโหว่ของระบบราชการ ผมขอเน้นว่าเยอะมาก ซึ่งความไม่ฉลาดของข้าราชการทำให้เสียเปรียบ”ดร.สุภัทร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงคิดว่าการติดตั้งระบบกล้อง CCTV ข้อกำหนดการว่าจ้าง (TOR) มีปัญหาตั้งแต่แรก คือช่วงเริ่มโครงการปี 2557 แทนที่จะพูดถึงเรื่องการตรวจรับซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพราะถ้าไม่มีการตรวจรับ หรือตรวจรับไม่ผ่าน ก็จะไม่มีการจ่ายเงินทั้งที่มีข่าวเรื่อง TOR ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว
ดร.สุภัทร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปดูสำนวนในเอกสารที่ตนได้ทำรายงานเสนอต่อ นพ.ธีระเกียรติ ตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มต้นจนถึงวันที่ 10 ส.ค.60 ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และใครทำอะไรถูก ใครทำอะไรผิด หรือใครถูกหลอก ตนไม่ได้บันทึกในสำนวนว่า ใครถูกหลอก แต่เมื่ออ่านสำนวนแล้วจะบอกในตัวสำนวนเองว่าเป็นยังไง ซึ่งจะบอกความหมายได้เลย และตนคิดว่า รมว.ศึกษาธิการ คงเข้าใจ อยู่ที่ว่าท่านจะพิจารณาอย่างไร ตนเป็นเพียงผู้เล่าเรื่องว่า ประเทศนี้มันเกิดอะไรขึ้นเท่านั้นเอง และที่หนักใจมากที่สุด ก็คือเห็นช่องโหว่ของข้อกฎหมาย และระเบียบวิธีการของทางราชการจนน่ากลัว ซึ่งก็คงเห็นเหยื่อมาหลายเรื่องแล้ว เช่น โครงการก่อสร้างสนามฟุตซอล ของศธ.เป็นต้น
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ