ดร.กมล ยื่นข้อมูล ป.ป.ช.วันนี้ “หมอธี” ระบุยังไม่คิดย้ายใคร วอนอย่าเชื่อข่าวลือ! ระบุผลสอบ CCTV รร.ใต้ ได้ข้อสรุปเบื้องต้นแต่บอกไม่ได้ ส่วนกรณีที่ ดร.กมล จะยื่นเอกสารถึง ป.ป.ช.นั้นไม่ทราบ แต่ข้อมูลทุกอย่างขึ้นอยู่กับกรรมการสืบสวนฯ คงต้องดูกันยาวๆ เพราะเกี่ยวข้องหลาย
วันที่ 24 ก.ค.60 นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ศธ.จะเสนอรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับ 11 ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 25 ก.ค.โดยคาดว่าจะเสนอโยก ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ.) ไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรณีการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดในโครงการ Safe Zone School (CCTV) 12 เขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ งบประมาณ 577 ล้านบาท ที่มีการร้องเรียนว่ากล้อง CCTV ไม่ดำเนินการตามข้อกำหนดการว่าจ้าง หรือทีโออาร์ และจะสลับให้ ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.) ไปเป็นเลขาธิการ สกศ.แทน ว่า
ในการประชุม ครม.วันที่ 25 ก.ค.60 นี้ ตนยังไม่ได้เสนอย้ายใคร แต่ถ้ามีชื่อใครถูกย้ายก็ไม่ใช่ตนเสนอ เพราะเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ศธ. ต้องพิจารณาร่วมกับ รมช.ศึกษาธิการทั้ง 2 คนด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่มีเวลาได้หารือร่วมกัน ตนอยากให้รอ ไม่อยากให้เชื่อข่าวลือ
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนผลการตรวจสอบการติดตั้งกล้องซีซีทีวีในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เท่าที่ทราบคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง ที่มี ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.)เป็นประธาน ได้ข้อสรุปเบื้องต้นแล้ว แต่ยังไม่สามารถบอกได้ ส่วนที่ ดร.กมล ระบุว่า คณะกรรมการสืบสวนฯ ไม่ได้ขอข้อมูลจากเจ้าตัวในฐานะที่เป็นอดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.)เลย และจะนำเอกสารเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวไปยื่นให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ตรวจสอบกระบวนการให้ครบทั้งหมดนั้น ตนไม่ทราบ กระบวนการหาข้อมูลขึ้นอยู่กับคณะกรรการสืบสวนฯ เรื่องนี้คงต้องดูยาว ๆ เพราะมีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย
ด้าน ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการ สกศ. กล่าวว่า วันนี้ตนยื่นหนังสือให้ ป.ป.ช.เพื่อให้มีการตรวจสอบเอกสารทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดในโครงการ Safe Zone School (CCTV) 12 เขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะได้รู้ที่มาที่ไปว่าโครงการนี้เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงมีผู้เกี่ยวข้องกับโครงการฯ ถึง 4 กลุ่ม
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ