มีช่องทางพิเศษช่วยครูเก่ง-พื้นที่เสี่ยง-เผยบทเฉพาะกาลแยก3กลุ่ม-คงสิทธิ์ครูทุกกลุ่ม
ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญเกี่ยวกับการพัฒนานโยบายและระบบบริหารงานบุคคล ที่ประชุมได้มีการพิจารณาการปรับปรุงมาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะบุคลากรทางการศึกษาสายการสอน ซึ่งได้มีการหารือในหลักการว่าการพิจารณาวิทยฐานะแนวใหม่นอกจากจะพิจารณาคุณภาพงาน ใน 3 เรื่อง คือ การจัดการเรียนการสอน, การบริหารจัดการชั้นเรียน และการพัฒนาตนเองแล้ว จะพิจารณาการสั่งสมประสบการณ์ ทั้งประสบการณ์การสอน เช่น การนับชั่วโมงการสอน และประสบการณ์ด้านความรู้ ความสามารถที่เพิ่มขึ้น เช่น การอบรมและพัฒนา ขณะที่หลักเกณฑ์และวิธีการเลื่อนวิทยฐานะแต่ละวิทยฐานะ จะมีการกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการให้เหมาะสมกับระดับวิทยฐานะและสะท้อนความเชี่ยวชาญ โดยสิ่งสำคัญในการพิจารณานั้นจะต้องดูผลที่เกิดขึ้นกับเด็กด้วย ส่วนการเลื่อนวิทยฐานะแต่ละระดับจะกำหนดระยะเวลา 5 ปี แต่จะมีช่องทางพิเศษสำหรับครูที่มีความรู้ ความสามารถพิเศษ หรือสอนในพื้นที่พิเศษ หรือมีความยุ่งยากในการปฏิบัติเป็นพิเศษ
ปลัด ศธ.กล่าวอีกว่า ทั้งนี้จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณาในที่ประชุม ก.ค.ศ.ในวันที่ 16 มิ.ย.60นี้ เพื่อประกาศใช้ให้ทันตามกำหนดในวันที่ 5 ก.ค.60 โดยจะมีการพิจารณาใน 3 เรื่อง คือ 1.หลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรฯ มีและเลื่อนวิทยฐานะใหม่ สายงานสอน 2.ตัวชี้วัดการประเมินผลการปฏิบัติงานจากการปฏิบัติหน้าที่ด้านการเรียนการสอน และ 3.บทเฉพาะกาลหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรฯ มีและเลื่อนวิทยฐานะใหม่ ซึ่งในกรณีของบทเฉพาะกาลที่มีครูร้องเรียนว่าจะเสียสิทธิ์นั้น ในบทเฉพาะกาลช่วงเปลี่ยนผ่านจะแยกเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มผู้ที่ยื่นคำขอตามหลักเกณฑ์ ว.17/2552 ไว้ก่อนที่หลักเกณฑ์และวิธีการนี้ประกาศใช้ กลุ่มผู้ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนหรือตั้งแต่วันที่หลักเกณฑ์และวิธีการนี้ประกาศใช้ และกลุ่มผู้ที่คุณสมบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการใหม่กำหนด ซึ่งยืนยันว่าจะยังคงสิทธิ์ของทุกกลุ่มไว้เหมือนเดิม
“บทเฉพาะกาลดังกล่าว ได้มีการปรับปรุงแก้ไข หลังจากที่สำนักงาน ก.ค.ศ.ได้ทำประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นจากหลายช่องทาง รวมถึงโฟกัสกรุ๊ป ดังนั้น ขอให้มั่นใจว่าครูจะไม่เสียสิทธิ์อย่างที่กังวล เพราะได้มีการวิเคราะห์เปรียบเทียบกับความก้าวหน้าของวิชาชีพอื่นแล้ว พบว่าเกณฑ์วิทยฐานะใหม่ของครูสายการสอน มีโอกาสก้าวหน้ามากกว่า เช่น เกณฑ์วิทยฐานะเดิม พบว่าครูจะไปค้างที่ชำนาญการพิเศษกว่า 200,000 คน แต่เกณฑ์ใหม่จะมีโอกาสไปได้ถึงวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีการใช้หลักเกณฑ์และวิธีการใหม่ไปแล้ว รมว.ศึกษาธิการ ยืนยันว่าหากยังมีประเด็นที่ต้องปรับปรุงแก้ไขก็ยังสามารถที่จะปรับปรุงได้อยู่” ดร.ชัยพฤกษ์ กล่าว
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ