ขวัญชัย หาญประโคน จ.บุรีรัมย์
โรงเรียน(รร.)ไตรมิตรวิทยาคาร อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) บุรีรัมย์ เขต 1 ทดลองนำผล “มะม่วงหาวมะนาวโห่” มาปรุง “น้ำพริก” ให้นักเรียนได้ทดลองทำในชั่วโมงเรียนวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานบ้าน) เพิ่มทางเลือกการรับประทาน พืชสมุนไพรชนิดนี้ซึ่งมีสรรพคุณหลากหลายเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
“น้ำพริก” เป็นอาหารพื้นบ้านภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนไทย ที่มีสารอาหารและสมุนไพรเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย รสชาติอร่อย และนิยมรับประทานกันทุกบ้าน เมื่อปรุงเสร็จได้นำไปให้คณะครูและผู้ปกครองนักเรียนชิม ซึ่งเป็นที่ถูกใจ จึงได้มีการพัฒนาปรับปรุงสูตรให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น
และเริ่มการทำน้ำพริกมะม่วงหาวมะนาวโห่ “น้ำพริกชะลอวัย” จำหน่ายในโรงเรียน ชุมชน และตามงานต่างๆ เป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการทำหากินของโรงเรียน ทำให้นักเรียนได้ฝึกการประกอบอาชีพและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้เกิดประสบการณ์ เพื่อที่จะสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ในอนาคต
ส่วนผสมของน้ำพริกมะม่วงหาวมะนาวโห่ ประกอบด้วย มะม่วงหาวมะนาวโห่ เนื้อปลาดุกย่าง พริกแห้ง กระเทียม หอมแดง น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา เกลือ กะปิ และน้ำมันพริกเผา โดยมีเคล็ดลับความอร่อย คือ เลือกใช้วัตถุดิบที่สด ใหม่และมีคุณภาพ พริกแห้งควรแห้งสนิทไม่อับ ไม่มีเชื้อรา เพราะจะมีความหอมรสเผ็ดเข้มข้นและสีสวย ปลาดุกย่างไฟอ่อน ย่างใหม่ ๆ จนเกือบแห้งเพราะเนื้อจะฟูนุ่ม อร่อย ใช้น้ำตาลปี๊บแท้ให้ความหอมและมีรสกลมกล่อม การผัดควรใช้ไฟปานกลาง เพื่อให้เนื้อน้ำพริกค่อยๆ สุก และมีสีสวยเนื้อเนียน
รับประทานกับผักสดนานาชนิด และเครื่องเคียง เช่น เนื้อหรือหมูแดดเดียว ปลาทู ปลาสลิด กากหมู ไข่เค็ม ไข่ต้ม ไข่เจียวใส่ผักชะอม จะมีคุณค่าทางโภชนาการและได้สารอาหารครบหมู่
สำหรับรางวัลที่เป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพความอร่อยของน้ำพริกชะลอวัย ฝีมือนักเรียนไตรมิตรวิทยาคาร เคยคว้ารางวัลเหรียญทอง รองชนะเลิศอันดับ2การแข่งขันทำน้ำพริก ผักสด เครื่องเคียง ระดับชั้น ป.4-6และรางวัลเหรียญทอง ลำดับที่10การแข่งขันทำน้ำพริก ผักสด เครื่องเคียง ระดับชั้น ม.1-ม.3 จากงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ครั้งที่ 66 ปีการศึกษา 2559
หากท่านใดสนใจสามารถติดต่อ สั่งซื้อน้ำพริกมะม่วงหาวมะนาวโห่ “น้ำพริกชะลอวัย” ได้ที่คุณครูที่ปรึกษา คุณครูรักคณา ไชยทอง โทร.08-4959 4445 และคุณครูอารีย์ สุรินทร โทร.09-5612-8835 รายได้นำสมทบทุนการศึกษาของนักเรียน
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ