ศธ.สั่งทบทวนแนวทางจัดทัศนศึกษาของ รร.ทั่วประเทศ
จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถทัวร์ ทัศนศึกษาของคณะครู-นักเรียน รร.พังทุยพัฒนา อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ตกเหวทางเชื่อมระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอุทยานแห่งชาติทับลาน มรดกโลก อ.นาดี จ.ปราจีนบุรีจนเป็นเหตุให้มีครูและนักเรียนเสียชีวิต 6 คน บาดเจ็บอีก 43 ราย
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจที่ครูและนักเรียนเสียชีวิต และเท่าที่ดูอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมักจะเกิดกับรถทัวร์สองชั้น ทั้งนี้ ศธ.ได้มีการห้ามอย่างเป็นทางการไปแล้วว่า ห้ามพาเด็กออกเดินทางตอนกลางคืน รวมถึงกำชับให้ตรวจสอบเรื่องความปลอดภัย
ดังนั้น อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้แสดงว่าไม่มีการปฏิบัติตาม ต้องมีคนรับผิดชอบ ซึ่งตนได้มอบหมายให้มีการสอบวินัยผู้ที่เกี่ยวข้อง ว่าทำไมถึงเดินทางกลางคืน ทำไมต้องไปไกลขนาดนั้น ทำไมคนที่อนุมัติให้เดินทางไม่ดู และเวลาจองรถ เอารถมาจากไหน ต่อไปคงต้องดูสัญญารถ ของกระทรวงคมนาคมว่า ไม่ให้คนขับ ขับรถเกินกี่ชั่วโมง รถได้มาตรฐานหรือไม่ คนขับรถทัวร์โดยเฉพาะรถทัวร์สองชั้นมีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่
และนอกจากจะต้องปฏิบัติตามระเบียบศธ.ระเบียบ ศธ. ว่าด้วยการพานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษา พ.ศ.2548 และประกาศ ศธ. เรื่องมาตรการในการพานักเรียน และนักศึกษา ไปนอกสถานศึกษาและเดินทางไกล เข้าค่ายพักแรกของลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด พ.ศ.2551 แล้ว เรื่องความปลอดภัยจะต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ไม่ใช่ดูว่าจะไปทัศนศึกษาที่ไหนมาเป็นอันดับหนึ่ง
“ส่วนเรื่องเงินไม่ว่าจะเป็นเท่าไร ก็ไม่สามารถชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ เราไม่ควรให้มันเกิดขึ้น เงินประก็มีแต่ผมมองว่าเป็นเรื่องปลายเหตุ อยากให้ผู้เกี่ยวข้องไปคิดเอา สิ่งที่ผมอยากเพิ่มเติม คือ ต่อไปการพาเด็กไปทัศนศึกษา ต้องมีสัญญากับทางบริษัททัวร์ เรื่องมาตรฐานของรถและคนขับ ซึ่งกระทรวงคมนาคม มีมาตรการอยู่แล้ว เช่น รถมีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่งหรือไม่ คนขับกี่คน ห้ามเดินทางกลางคืน ถ้าเป็นไปได้เลือกรถชั้นเดียว ศธ.มีเงินอุดหนุนเพื่อสนับสนุนให้โรงเรียนพาเด็กไปทัศนศึกษา เราไม่ห้ามเรื่องทัศนศึกษา แต่ไปใกล้ ๆ ได้หรือไม่ หรือถ้าหากจะไปไกลๆ ก็ให้วางแผนการเดินทางดี ๆ และคำนึงถึงความปลอดภัยมากขึ้น”นพ.ธีระเกียรติกล่าว
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ