มรภ.สุราษฎร์จัดการป่าต้นน้ำฟื้นท่องเที่ยวสปาปลา หลังพบเกษตรติดป่าต้นน้ำทำสิ่งแวดล้อมเปลี่ยน
ผศ.สมทรง นุ่มนวล คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) เปิดเผยว่า มรส.ได้จัดเวทีประชาคมเพื่อสำรวจสภาพปัญหาและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ อบต.ดอนสัก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี และได้พบปัญหาเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการแก้ไข คือปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในชุมชนถูกทำลาย เพื่อนำพื้นที่ไปใช้ในการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ โดยเฉพาะพื้นที่ป่าต้นน้ำหัวคลองหมู่ที่ 13 ต.ดอนสัก พบว่ามีการบุกรุกแผ้วถางทำการเกษตรและใช้สารเคมี เมื่อฝนตกลงมาก็ได้ชะล้างสารเคมีลงสู่ต้นน้ำ ทำให้สัตว์น้ำจำพวกกุ้ง หอย ปู ปลาตาย หรือนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำมีอาการผดผื่นคันตามผิวหนัง อีกทั้ง ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสปาปลา หรือปลาตอดเท้าธรรมชาติ แต่ขณะนี้ปลาตอดเท้าที่อยู่ในแม่น้ำอย่างปลาซิวและปลาโสด เริ่มมีจำนวนลดลง ชาวบ้านจึงประสานให้ มรส.เข้ามาความช่วยเหลือโดยเร่งด่วน
ดร.เสน่ห์ บุญกำเนิด อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ กล่าวว่า ตนอยู่ในพื้นที่จึงเข้าใจสภาพปัญหาดีเบื้องต้นได้นำคณาจารย์และนักศึกษา ลงพื้นที่ปลูกป่ากับชาวบ้าน ให้ความรู้การจัดการป่าต้นน้ำให้กลับสู่สภาพเดิมก่อนจะเสียหายไปมากกว่านี้ โดยเฉพาะชาวบ้านที่มีพื้นที่การเกษตรติดป่าต้นน้ำ ต้องสร้างความเข้าใจเรื่องการใช้สารเคมีที่ปลอดภัย และผลกระทบที่จะเกิดต่อสัตว์น้ำ ต่อนักท่องเที่ยว และรายได้ของเกษตรกร
ด้านนายโกมล ผ่อนผัน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 บ้านเขากลอย ตำบลดอนสัก กล่าวว่า การรักษาสิ่งแวดล้อมต้องเริ่มต้นจากคนในพื้นที่ เราอาจคิดว่าเราทำการเกษตร การที่สปาปลาและนักท่องเที่ยวหายไปนั้นไม่เกี่ยวกับเรา แต่อย่าลืมว่าเมื่อไม่มีนักท่องเที่ยว แล้วเราจะเอาพืชผักผลไม้ทางการเกษตรไปขายใคร ดังนั้น ทุกอย่างจึงส่งผลกระทบทั่วถึง เชื่อมโยงกันไปหมดทั้งระบบ และเราต้องเริ่มต้นที่จะเปลี่ยนที่ตัวเราเอง
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ