ดาว์พงษ์ เร่งบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กให้แล้วเสร็จปี 2561
วันที่ 9 ก.ย.59 พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ประธานคณะทำงาน รมว.ศึกษาธิการ นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้เดินทางไป เยี่ยมชมการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนดีมากอุปถัมภ์ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี
โดย พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวว่า ตามที่ ศธ.มีนโยบายแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนต่ำกว่า 20 คน ซึ่งจากข้อมูลที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)สำรวจมาพบว่า ขณะนี้มีโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนต่ำกว่า 20 คน จำนวน 827 โรง และมีโรงเรียนที่สพฐ.คัดเลือกให้เป็นโรงเรียนแม่เหล็กเพื่อรับนักเรียนจากโรงเรียนขนาดเล็กแล้ว 300 กว่าโรง ซึ่งโรงเรียนดีมากอุปถัมภ์ก็เป็นหนึ่งในโรงเรียนแม่เหล็กที่ สพฐ.คัดเลือก ซึ่งจะรองรับนักเรียน 18 คนและครู 3 คนจากโรงเรียนบ้านคลองหนึ่ง อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี
พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจเยี่ยมโรงเรียนดีมากอุปถัมภ์ เห็นว่า เป็นโรงเรียนที่ค่อนข้างมีความพร้อมในการจัดการศึกษา แต่ต้องมีการพัฒนาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของโรงเรียนบ้าง โดยทางกายภาพจะมีการสร้างห้องไอซีที บ้านพักครู และปรับปรุงโรงอาหาร ส่วนทางวิชาได้มอบให้ สพฐ.ไปดูแลและจัดหาครูให้ครบทุกกลุ่มสาระแล้ว อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยกับผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบ้านคลองหนึ่ง ทุกคนก็เห็นด้วยกับการบริหารจัดการโรงเรียนและยินดีให้ลูกหลานมาเรียนที่โรงเรียนดีมากอุปถัมภ์ แต่ติดปัญหาเรื่องการเดินทาง ตนจึงมอบให้ทาง จ.นนทบุรี หาทางดูแลเรื่องนี้
สำหรับโรงเรียนบ้านคลองหนึ่ง นั้นเมื่อเด็กย้ายออกไปเรียนที่โรงเรียนดีมากฯแล้ว ผู้ใหญ่บ้านบอกว่าตั้งใจให้เป็นที่เรียนการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชนด้วย
“เมื่อเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนขนาดเล็กในกลุ่มเป้าหมายแรก 421 โรงจะต้องเคลื่อนย้ายนักเรียนไปเรียนในโรงเรียนแม่เหล็ก และที่เหลือ 406 จะต้องดำเนินการแล้วเสร็จภายในปีการศึกษา 2561 ประเด็นสำคัญของการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก คือ ต้องสร้างความเข้าใจกับผู้ปกครอง ชุมชน ถึงเหตุผลความจำเป็น ว่า ต้องการให้เด็กได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ โดยระยะแรกภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จะเริ่มจากโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนต่ำกว่า 20 คน ในกลุ่มเป้าหมายจำนวน 421 โรงที่ต้องเคลื่อนย้ายนักเรียนไปเรียนในโรงเรียนแม่เหล็กก่อน ส่วนที่เหลืออีก 406 โรงจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีการศึกษา 2561 จากนั้นก็จะมาพิจารณาโรงเรียนที่มีเด็กมากกว่า 20 คนในลำดับต่อไป ทั้งนี้ไม่ว่าโรงเรียนขนาดเล็กจะมีเด็กจำนวนเท่าไหร่ แต่หากยังสามารถบริหารจัดการศึกษาได้อย่างดี ศธ.ก็จะไม่เข้าไปยุ่ง” พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าว
ด้าน นายการุณ กล่าวว่า สพฐ.จะใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ ปีงบประมาณ 2559 ที่ได้รับประมาณ 3,800 ล้านบาท ในการพัฒนาโรงเรียนแม่เหล็กทั้งในด้านกายภาพและคุณภาพ โดยสพฐ.จะทำการสำรวจความต้องการของโรงเรียน เพื่อจัดสรรงบฯไปให้สำหรับการพัฒนาโรงเรียนตามความจำเป็น ซึ่งในภาพรวมทั้งระบบ สพฐ.จะเร่งจัดสรรงบประมาณดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยภายในเดือน ธ.ค.59 เพื่อให้พร้อมรับนักเรียนเมื่อเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2560 โดยโรงเรียนดีมากอุปถัมภ์ พบว่ายังขาดแคลนห้องเรียนคอมพิวเตอร์ บ้านพักครู หลังคาลานกีฬา รวมถึงต้องปรับปรุงโรงอาหารและที่จอดรถ
ขณะที่ นางกิตติยา ดอกคำ รักษาการผอ.โรงเรียยดีมากอุปถัมภ์ กล่าวว่า โรงเรียนดีมากอุปถัมภ์ จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 มีนักเรียน 110 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กพิเศษเรียนร่วม 18 คน มีครูทั้งสิ้น 12 คนโดยเป็นครูประจำการ 6 คน และอัตราจ้าง 6 คน เด็กส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่หมู่ 6 และ 7 ต.ไทรใหญ่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ขณะเดียวกันมีนักเรียนจากพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ ต.นิลเพชร จ.นครปฐม และต.สามเมือง จ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางมาเรียนด้วย ระยะทางไกลสุดประมาณ 7 กิโลเมตร การเดินทางคมนาคมทางบก ส่วนการควบรวมนำเด็กจากโรงเรียนบ้านคลอง 1 ซึ่งมีนักเรียน จำนวน 18 คนนั้น ทางโรงเรียนก็มีความพร้อม เพราะปัจจุบันโรงเรียนแห่งนี้ก็เป็นโรงเรียนเครือข่ายอยู่แล้ว เพียงแต่ยังมีข้อห่วงใยของผู้ปกครองในเรื่องการเดินทางมาเรียน เพราะเส้นทางไกลขึ้น ซึ่งบางคนก็ไม่มีเงินในการส่งลูกมาเรียน
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ