12 เม.ย,64-รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2564 นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้ลงนามออกประกาศกระทรวงคมนาคมเรื่อง แนวทางปฏิบัติการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของกระทรวงคมนาคม โดยมีใจความว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน พบว่า เริ่มมีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคมติดเชื้อโควิด-19 จำนวนหลายราย
ดังนั้น เพื่อป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าว รวมถึงเพิ่มมาตรการให้เคร่งครัดมากขึ้น กระทรวงคมนาคมจึงออกแนวทางปฏิบัติให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมดำเนินการ ดังนี้ 1.แนวทางปฏิบัติ/มาตรการป้องกัน โดยขอความร่วมมือทุกหน่วยงานปฏิบัติตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยการเว้นระยะระหว่างกันและหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จัดให้มีจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมืออย่างทั่วถึงเพียงพอ และล้างมือบ่อยๆ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ติดตั้งและใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ
อย่างไรก็ตามขณะที่บุคคลที่เคยไปในพื้นที่เสี่ยง/กิจการเสี่ยง/กิจกรรมเสี่ยง หรือสัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลในกลุ่มเสี่ยงขอให้ใข้มาตรการกักตนเองอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ในเดือน เม.ย. 2564 ขอให้ส่วนราชการในสังกัด รวมทั้งขอความร่วมมือจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นำมาตรการให้บุคลากรในสังกัดปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการ (Wark from Home) ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2563 มาใช้ตามความเหมาะสม
โดยเฉพาะวันที่ 16 และ 19 เม.ย. 2564 เพื่อลดความคับคั่งในการเดินทางกลับจากต่างจังหวัดของประชาชน ส่วนการจัดการประชุม การเรียน การศึกษาอบรม ขอให้พิจารณาใช้รูปแบบออนไลน์และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดพัฒนารูปแบบการเรียน การศึกษาอบรมแบบออนไลน์ แทนรูปแบบการเรียน
การศึกษาอบรมในห้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.แนวทางปฏิบัติเมื่อพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 โดยให้แจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ภายใน 3 ชั่วโมงนับตั้งแต่พบผู้ป่วย เพื่อให้ดำเนินการสอบสวน ป้องกัน และควบคุมโรค โดยให้ดำเนินการตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติตต่อ/คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร รวมทั้งหยุดกิจกรรมหรือการให้บริการในแผนก/พื้นที่ที่มีผู้ป่วยติดเชื้อ อีกทั้งทำความสะอาดฆ่าเชื้อบริเวณพื้นที่สัมผัสร่วม เช่น ราวบันใด ที่จับประตู ลิฟต์ ห้องน้ำ และ 3.แนวทางปฏิบัติในการรายงาน โดยขอให้ทุกหน่วยงานถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และรายงานผลการดำเนินการให้กระทรวงคมนาคมทราบเป็นประจำทุกวัน จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ