ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์กรครูทั่วประเทศ ได้มีหนังสือนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การศึกษา โดยเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย : Education Thailand Association (E.T.A) ที่ ค.อ.ท. 03/2564 ลงวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 เรื่อง ข้อเสนอประกอบการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.
กราบเรียน นายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา)จำนวน 1 ชุดสิ่งที่ส่งมาด้วย 1. ข้อเสนอของเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย( ค.อ.ท.)จำนวน 1 ชุด 2. เอกสารสมาชิกเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย
ด้วยเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย : Education Thailand Association (E.T.A)ได้นำ ร่าง พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. (ฉบับผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา และภาคประชาชน) ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2564 มาศึกษาวิเคราะห์ และสังเคราะห์ พบว่า ยังมีส่วนที่เป็นข้อกังวลใจของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในหลายประเด็นซึ่งอาจส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และขวัญกำลังใจของบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาในอนาคต
ในการนี้ เครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย (ค.อ.ท.) จึงมีมติร่วมกันให้นำข้อเสนอประกอบการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ…. ตามรายละเอียดในเอกสารสิ่งที่ส่งมาด้วย เพื่อให้มีการแก้ไขปรับปรุงก่อนที่รัฐบาลจะนำร่างพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าวนำเสนอในรัฐสภา ในการออกกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไปจึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง นายไพศาล ปันแดนนายกสมาคมนักบริหารการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งประเทศไทยรักษาการประธานเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทยเลขานุการเครือข่ายๆ
สำหรับข้อเสนอมี 9 ห้วข้อใหญ่ คือ ข้อเสนอแนะที่ 1ให้ “ครู เป็นวิชาชีพทางการศึกษา เป็นวิชาชีพชั้นสูง” โดยให้มีการบัญญัติในกฎหมาย ข้อเสนอแนะที่ 2ให้มี “กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลที่มีองค์กรกลางบริหารงานบุคคล” โดยให้มีการบัญญัติในกฎหมาย
ข้อเสนอแนะที่ 3 ให้มี “การจัดระเบียบบริหารกระทรวงศึกษาธิการ ต้องมีองค์กรหลักที่เป็นคณะบุคคลในรูปคณะกรรมการ ที่เป็นเอกภาพและสามารถบูรณาการได้” โดยให้มีการบัญญัติในกฎหมาย
ข้อเสนอแนะที่ 4 “เพิ่มสัดส่วนการมีส่วนร่วมของครูและบุคลากรทางการศึกษาและหัวหน้าส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นกรรมการ ในคณะกรรมการกำหนดนโยบายการศึกษาแห่งชาติให้เหมาะสม” ข้อเสนอแนะที่ 5 ให้มีการกำหนด “แนวทางการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคนไทยเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์เทียบเท่าสากล ให้สามารถดำรงชีวิตและเป็นพลเมืองและพลโลกที่มีคุณภาพ”โดยให้มีการบัญญัติในกฎหมาย
ข้อเสนอแนะที่ 6 ให้มีบทบัญญัติ “กฎหมาย ว่าด้วยการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ครอบคลุมการจัดการศึกษาให้กับปวงชนชาวไทยตั้งแต่แรกเกิด ปฐมวัย การศึกษาภาคบังคับ และขั้นพื้นฐาน เพื่อเตรียมความพร้อม ไห้การอบรมเลี้ยงดู จนสำเร็จระดับการศึกษาภาคบังคับ และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้มีทักษะพื้นฐานในการดำรงชีวิตเป็นพลเมืองไทยและพลโลกที่มีคุณภาพ มีทักษะการทำงานที่สร้างสรรค์ สร้างนวัตกรรม ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก และใช้เป็นเครื่องมือในการศึกษาต่อ
ข้อเสนอแนะที่ 7 ให้มีบทบัญญัติ “กฎหมาย ว่าด้วยการจัดอาชีวศึกษาที่เน้นการปฏิบัติอย่างเต็มรูปแบบมีกลไกการบริหารจัดการ เพื่อสร้างความเป็นเลิศนำไปสู่การจ้างงานและการสร้างงาน อย่างมีคุณภาพตามยุทธศาสตร์ของประเทศ
.
ข้อเสนอแนะที่ 8 ให้มีบทบัญญัติ “กฎหมาย ว่าด้วยการอุดมศึกษา ที่สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีอิสระมีความเป็นเลิศทางวิชาการควบคู่กับวิชาชีพ ส่งเสริม การสร้างองค์ความรู้ การค้นคว้า วิจัย และพัฒนานวัตกรรมได้อย่างรอบด้าน”
ข้อเสนอแนะที่ 9 ให้มีบทบัญญัติ “กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาของชาติ” โดยให้มีบทบัญญัติในการตรากฎหมาย กฎหมายว่าด้วยการศึกษาภาคบังคับ ว่าด้วยการศึกษาเอกชน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย การจัดการศึกษาสำหรับคนพิเศษ และอื่นที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนและครอบคุลมทุกรูปแบบทุกระบบและทุกระดับการศึกษาของชาติ”เครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย.
นายอนุสรณ์ พรมรังกา จากสมาคมผู้บริหารสถานศึกษาอ.เมือง จ.แพร่ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในจังหวัดแพร่. เครือข่ายครู-ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษา ในนามสมาคมองค์กรวิชาชีพระดับจังหวัดและอำเภอทุกอำเภอ. กำลังประสานสร้างความเข้าใจและความตระหนักให้ครู บุคลากรทางการศึกษา ตลอดถึงเครือข่ายผู้ปกครองนักเรียนทุกภาคส่วน. รวมทั้งชมรมข้าราชการบำนาญครูทั้งหวัด. เพื่อรวมพลังคัดค้านและต่อต้านร่าง พรบ.การศึกษา ฉบับกฤษฎีกานี้. . ที่จะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้การศึกษาของชาติในอนาคต
ทางสมาคมครูแพร่ ขอฝาก เรียน ไปยังประธานสหพันธ์/ประธานสมาพันธ์/ประธานชมรมครูและนายกสมาคมครู 16 จังหวัดภาคเหนือและสมาชิกผู้นำครูภาคเหนือ ที่เคารพทุกท่าน ขณะนี้เครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย(ค.อ.ท.)ได้ผลักดันและคัดค้าน ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.(ฉบับกฤษฏีกา) ตามข่าวที่ทราบโดยทั่วกันนั้น ในการนี้สหาพันธ์ครูภาคเหนือ(สคน.)จึงขอความร่วมมือให้ทุกท่าน /ทุกจังหวัด/ทุกอำเภอได้ร่วมมือกันกับสพป./สพม. ทุกเขต ในการยื่นหนังสือคัดค้าน ร่างพ.ร.บ.ฯดังกล่าวต่อส.ส.,ส.ว.ในเขตจังหวัดภาคเหนือของท่านด้วย ทั้งนี้ขอให้ทุกจังหวัด ทุกอำเภอได้ประสานงานกำหนดการยื่นหนังสือโดยเร็ว ก่อน 22 พฤษภาคม 64 เพื่อยับยั้งร่างฯสู่รัฐสภา ด้วยขอบคุณสมาคมครูแพร่