15 พฤษภาคม 2564 | โดย ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ | คอลัมน์ Think Byte
15
ส่องบันได 9 ขั้น ของการเริ่มต้นทำ “ธุรกิจในยุคใหม่” มีแนวคิดและขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
การเริ่มต้นธุรกิจของแต่ละคนนั้นก็มีวิธีการที่แตกต่างกัน บางคนเริ่มต้นจากความชอบ บางคนเริ่มจากงานอดิเรกที่ทำเป็นประจำ ซึ่งหากต้องการพัฒนาสิ่งเหล่านี้มาเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ก็มีหลักการง่ายๆ ดังนี้
1.Business model – Differentiate เป็นการเริ่มต้นศึกษาดูว่าธุรกิจที่เราจะทำนั้น มีรูปแบบในการทำธุรกิจเป็นอย่างไร และแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร ถ้าธุรกิจของเราไม่มีความแตกต่างกับเจ้าอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาดแล้วในที่สุดก็จะเกิดเป็นสงครามราคาเท่านั้น โดยความแตกต่างมีได้หลายรูปแบบ ทั้งในด้าน Product Differentiation ก็คือ ความแตกต่างในด้านผลิตภัณฑ์ และในเชิงของ Service บริการที่แตกต่าง แม้จะเป็นสินค้าประเภทเดียวกันแต่ใช้วิธีการขายที่ต่างกันได้
2.Product Direction การศึกษาว่าสินค้าหรือบริการของเรามีแนวโน้มหรือทิศทางไปทางใด เราจะพัฒนาพัฒนาต่อในอนาคตอย่างไร หลายๆ คนที่มักไม่มีการวางแผนล่วงหน้าว่าตัวเองจะต้องทำอะไรยังไง ตรงนี้ก็จะกลายเป็นคือจุดอ่อนของตัวเองได้ในที่สุด
3.Target เมื่อเราวางแผนพัฒนาธุรกิจไว้ล่วงหน้า สิ่งที่จะทำต่อไปคือการตั้งเป้าหมาย ว่าสินค้าและบริการที่วางแผนไว้จะต้องสร้างรายได้ไว้เท่าไร จำนวนยอดขายตลอดปีนี้และปีต่อไปควรเป็นจำนวนเท่าใด เมื่อเราเห็นเป้าหมายที่ชัดเจน ก็จะนำไปสู่การวางแผนงานธุรกิจต่อไป
4.Resource Management เมื่อมีเป้าในทางธุรกิจแล้วว่าเราจะพัฒนาสินค้าและบริการอย่างไร สิ่งที่จะต้องทำในลำดับถัดมาก็คือการบริหารจัดการเรื่องของ “คน” เช่น ปีนี้ต้องการยอดขาย 100 ล้าน มีแนวทางในการพัฒนา product แบบนี้ๆ ก็ต้องมาดูเรื่องคนว่า การจะไปถึงเป้าหมายนั้นได้ เราต้องใช้คนจำนวนเท่าใด จัดสรรตำแหน่งการทำงานอย่างไร ทีมเซลส์ ทีมพัฒนา product ต้องวางให้ชัดและสอดคล้องกับแผนที่วางไว้ตั้งแต่ตอนเริ่มต้น
5.Financial Budget หากต้องการให้ธุรกิจเติบโต ต้องมีการวางแผนตรงนี้ให้ชัดเจน ว่าต้องบริหารการเงินอย่างไร แต่ละคนใช้ แต่ละตำแหน่งอะไร จะต้องจ่ายเงินเดือนเท่าไร ค่าเช่าออฟฟิศ ค่าใช้จ่ายทางการตลาด ลงโฆษณาออนไลน์ จะตั้งเป้าเท่าไหร่ เรียกว่าต้องมีการวางแผนกันตลอดทั้งปีเลยทีเดียว
6.Operation KPI ต่อไปก็เป็นการเซต KPI เราต้องมีการกำหนด KPI (Key Performance Indicator) คือเป้าของแต่ละทีมว่าต้องมีอะไร เช่น การกำหนดเป้ายอดขาย ทุกคนก็ต้องมีเป้าหมาย KPI ของตัวเอง จากนั้นจึงไปแตกเป้าของตัวเองจากรายปีออกมาเป็นรายเดือน รวมไปถึงเป้ารายวัน ถ้าทำเป้ารายวันหนึ่ง รายอาทิตย์ก็จะถึง รายเดือนรายปีก็จะถึงเช่นเดียวกัน ฉะนั้น จงทำเป้าหมายให้เล็กที่สุด ให้คนสามารถทำได้
7.Daily improvement ปรับปรุงตัวเอง หัวหน้าที่ดีต้องถามคำถามว่าเมื่อเกิดปัญหาจะแก้ปัญหาอย่างไร ลองวิธีการที่คิดแบบใหม่ว่าจะเป็นอย่างไร แล้วจึงสิ่งที่เขาทำแล้วทำได้ดีไปบอกคนอื่นต่อในทีม เอาองค์ความรู้ที่มาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทุกๆ วัน ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
8.Marketing & Build Brand Awareness ทีมมาร์เก็ตติ้งต้องทำการตลาดเพื่อกระตุ้น สร้าง Brand awareness ให้คนรู้จักอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งคนรู้จักแบรนด์เรายิ่งรู้จัก การขายของจะง่าย
9.Partner การมีพาร์ทเนอร์หรือคู่ค้าทางธุรกิจมาก โอกาสทางธุรกิจของเราก็ยิ่งกระจายออกไปมากขึ้นในจุดที่เราไม่ถนัดได้มากขึ้น ดังนั้นการหา Connection กับพาร์ทเนอร์เหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่ธุรกิจจะขาดไม่ได้เลย