ตร. สั่งเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกจราจรเปิดเรียน 1 พ.ย.
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร. มีหนังสือวิทยุในราชการตร. ถึง ผบช.น, ภ.1-9 และ ก. ใจความว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดให้โรงเรียนและสถาบันการศึกษาในสังกัดเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ในวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 64 พร้อมกันทั่วประเทศ โดยให้ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กระทรวงศึกษาธิการกำหนด โดยมีโรงเรียนและสถาบันการศึกษาที่สามารถใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน (On-Site) จำนวนหลายแห่ง ตังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จึงให้ทุกหน่วยดำเนินการ ดังนี้
1.ประสานข้อมูลกับโรงเรียนและสถาบันการศึกษาในพื้นที่ เพื่อจัดทำแผนการจัดการจราจรโดยรอบบริเวณสถานศึกษาในชั่วโมงเร่งด่วนทั้งเช้าและเย็น เช่น การกำหนดพื้นที่สำหรับ ให้ผู้ปกครอง หยุดรถ รับ-ส่ง นักเรียน นักศึกษา การกำหนดพื้นที่ห้ามหยุดหรือจอดรถ การกำหนดเส้นทางเดินรถโดยรอบในชั่วโมงเร่งด่วน เพื่ออำนวยการจราจรให้เป็นไปโดยสะดวกและปลอดภัย ไม่ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดสะสม
2.ประสานขอคืนพื้นผิวการจราจรหรือจัดระเบียบพื้นผิวการจราจรที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
หรือซ่อมแซมโดยรอบโรงเรียนและสถาบันการศึกษา เพื่อเพิ่มช่องทางเดินรถในเส้นทางจราจรและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดกับผู้ปกครอง นักเรียน และนักศึกษาที่ใช้ทาง
3.ประชาสัมพันธ์แผนการจัดการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน (ที่อาจแตกต่างจากเส้นทางเดินรถ
ในช่วงเวลาปกติ แนะนำการใช้เส้นทางสำหรับผู้ปกครอง และเส้นทางเสี่ยงสำหรับประชาชนทั่วไป ผ่านสื่อ ช่องทางต่างๆในพื้นที่ ตลอดจนติดตั้งปัายประซาสัมพันธ์เส้นทางจราจรให้ทั่วถึง เพื่อให้ประชาชนทราบและสามารถกำหนดแผนการเดินทางได้อย่างเหมาะสม
4.เตรียมความพร้อมด้านวัสดุอุปกรณ์ในการอำนวยความสะดวกการจราจร เช่น กรวยยาง อุปกรณ์ประจำกาย อุปกรณ์ในการเคลื่อนย้ายรถกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือมีรถจอดกีดขวางการจราจร
5.จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกการจราจรให้เพียงพอและเหมาะสมต่อจำนวนโรงเรียนและสถาบันการศึกษา หากกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรใน สน./สภ. ให้พิจารณาจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจในสายงานอื่นหรืออาสาจราจรมาช่วยอำนวยการจราจรในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนด้วย
6.รณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครอง นักเรียน และนักศึกษา ปฏิบัติตามกฎจราจร โดยเฉพาะการใช้อุปกรณ์นิรภัยในการขับขี่ ได้แก่ การสวมหมวกนิรภัย การรัดเข็มขัดนิรภัย ตลอดจนขอความร่วมมือกับโรงเรียนและสถาบันการศึกษา ในการใช้มาตรการองค์กรเพื่อให้ผู้ปกครอง นักเรียน และปฏิบัติตามกฎจราจรทั้งภายในและบริเวณโดยรอบพื้นที่โรงเรียนและสถาบันการศึกษา
7.ในกรณีพบการกระทำผิดกฎจราจร ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะเจ้าพนักงานจราจรพิจารณาดำเนินการบังคับใข้กฎหมายตามความจำเป็นและเหมาะสมกับพฤติการณ์ตามขั้นตอนและวิธีการที่กำหนดในมาตรา 140 แห่ง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 โดยให้คำนึงถึงบริบทและสถานะของกระทำผิด หากเป็นนักเรียน ให้พิจารณาใช้อำนาจว่ากล่าวตักเตือนแทนการออกใบสั่ง ทั้งนี้กฎหมายจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการจราจรจนเกินสมควร
8.ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการอำนวยการจราจร ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตาม
มาตรฐานขั้นตอนการปฏิบัติในสายงานจราจร Standard Operation Procedures (SOP) ภายใต้ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตามที่กำหนดใน หนังสือ ตร.ที่ 0007.34/1557 ลง 28 พฤษภาคม 64 อย่างเคร่งครัด เพื่อทราบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง