By Natt W.
|
11 มี.ค. 2565 เวลา 13:21 น.
ANIVERSE METAVERSE โลกเสมือนแห่งการเรียนรู้ ให้เด็กเรียนรู้ผ่านเกม Edu GameFi สนุกกับการเรียนและนำไปปรับใช้ได้ในชีวิตจริง
คุณพิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด ผู้ก่อตั้ง Anitech จับมือร่วมกับ คุณอัมพรสักก์ อังคทะวานิช เปิดตัว บริษัท ครีเอทีฟ ดิจิทัล ลีฟวิ่ง จำกัด กางโปรเจกต์ “ANIVERSE METAVERSE” โลกเสมือนแห่งการเรียนรู้ ด้วยรูปแบบ Edu GameFi ให้เด็กไทยสามารถเรียนรู้ (Education) ผ่านประสบการณ์การเล่นเกม (Game)
คุณพิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ในฐานะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ครีเอทีฟ ดิจิทัล ลีฟวิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า เหตุที่ตัดสินใจมาทำ Aniverse Metaverse ว่า มีความตั้งใจเริ่มมาก่อน เพราะในช่วงสองปีที่ผ่านมาจากเหตุการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เด็กไทยหลุดออกจากระบบการศึกษากว่า 65,000 คน ภายในปี 2564 และยังมีเด็กยากจนที่เข้าไม่ถึงโอกาสการเรียนรู้ในระดับอุดมศึกษาอีก 1.2 ล้านคน ตามข้อมูลของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)
ตนจึงมีความตั้งใจที่จะผลักดันให้เด็กไทยกลับเข้าสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ โดยได้ร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เพื่อเปิดเป็นมหาวิทยาลัยนำร่องการศึกษาด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำการสอนผ่านโลกเสมือน Metaverse โดยเหล่านักศึกษาจะได้หน่วยกิตครบเสมือนเรียนอยู่ในห้องเรียน หรือเรียนผ่าน Zoom อย่างที่ทุกวันนี้เป็น
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :
- NFT เมืองไทย ขยับไปถึงการแจก “ปริญญาบัตร” กันแล้ว
- เหตุผลว่าทำไม ? คริปโทเคอเรนซี จึงเข้ามามีบทบาทในรัสเซีย ยูเครน
- T&B Media Global ประกาศร่วมมือพันธมิตรพัฒนาแพลตฟอร์ม NFT มุ่งสู่ Metaverse
นอกจากที่จะเข้าไปเรียนแบบห้องเรียน หรือผ่านหน้าจอแบบ Zoom แล้ว ทางมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้ให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่นักศึกษา และสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนเป็นเหมือนเกม MMORPG (Massively Multiplayer Online Role-Playing Game) ได้เลย กล่าวคือ นักศึกษาจะเข้าไปมีตัวตนอยู่ในโลกเสมือนแบบเวลาเล่นเกม ทำการเก็บเควส ลงดันเจี้ยน ตีบอส ที่ควบคู่ไปกับการเรียนการสอน
ซึ่งทาง Dr.Dhanoos Sutthiphisal รองคณบดี คณะบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้กล่าวไว้ว่า การเรียนรู้ที่ดีจะมาจากเนื้อหาเป็นสำคัญ เนื้อหาที่ไม่ใช่แค่หลักสูตรการเรียนการสอนแต่รวมไปถึงรูปแบบการนำเสนอ ยิ่งให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมมากเท่าไหร่ (Experience Learning) ผู้เรียนยิ่งจำได้มากขึ้นเท่านั้น และจะเป็นการดีถ้าหากสามารถจำได้ตลอดไป (Life Long Learning) เพื่อมั่นใจได้ว่าผู้เรียนจะมีองค์ความรู้ติดตัวสามารถนำไปใช้งานได้จริง
พร้อมเสริมด้วยว่า ถ้าการเรียนการสอนมีรูปแบบคล้ายเกมคือจำลองตัวเองไปอยู่ในเหตุการณ์ น่าจะเป็นผลดีต่อตัวผู้เรียนเองที่จะได้รับประสบการณ์แบบ Experience Learning
คุณพิชเยนทร์ หงษ์ภักดี กล่าวต่อว่า Aniverse Metaverse จะใช้ระบบ Blockchain ในการดำเนินงาน ซึ่งจะไปทำอยู่บน Polygon (ซึ่งมีพื้นฐานบน Ethereum Blockchain) เพื่อสร้างโลกแห่งการเรียนรู้ ซึ่งทางระบบจะทำหน้าที่เก็บข้อมูลของผู้เรียนทั้งหมด แล้วนำไปวิเคราะห์ผ่าน Big Data เพื่อช่วยสรุปว่า ผู้เรียน มีความสนใจหรือทำด้านไหนได้ดี เปรียบเสมือนช่วยค้นหาตัวต้นให้ผู้เรียน เพราะที่ผ่านมาเด็กหลายคนไม่รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร อยากเรียนอะไร หรือเก่งด้านไหน อาศัยการชี้นำของผู้ปกครอง หรือทำตามเพื่อนก็เยอะ แต่เมื่อมีระบบตรงนี้เข้ามาช่วยเหลือทำให้เด็กหาตัวตนได้ง่ายยิ่งขึ้น
ทำให้ทางด้าน คุณอภิชาติ ขันธวิธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิว เจ็น คอนซัลแทนท์ จำกัด และ เจ้าของเพจ HR – The Next Gen เป็นต้น ได้เผยว่า หน้าที่ของการเป็นฝ่ายบุคคล (Human Resource: HR) คือการบริหารบุคคล ไม่ว่าคนที่สมัครเข้ามาจะมีสกิลอะไรบ้าง ต้องทำการ Re-Skill ก่อนถึงจะปรับตัวเข้าไปทำงานร่วมกับบริษัทได้ และคนที่ทำงานเดิมอยู่แล้วก็ต้องทำการ Re-Skill อยู่ตลอดเวลา เพราะโลกไม่หยุดเฉย การเรียนรู้เกิดขึ้นตลอดเวลา ทุกคนต้องทำการเรียนรู้ใหม่เพื่อปรับให้ทันกับโลก การที่เด็กค้นพบตัวเองได้เร็วเท่าไหร่ ยิ่งช่วยประหยัดเวลา Re-Skill ที่ไม่จำเป็นทิ้งไปได้มาก
คุณอัมพรสักก์ อังคทะวานิช ระบุว่า Aniverse Metaverse จะเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้ทางมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เข้ามาจับจองพื้นที่เพื่อเปิดแคมปัสบนโลกเสมือน โดยจะมีที่ดิน (Land) อยู่ 250,000 และมีคริปโตเคอร์เรนซีเป็นของตัวเองอย่าง ANIV Token ซึ่งจะมีถึง 2 พันล้านเหรียญ แบ่งเปิดเป็นทั้งหมด 4 เฟส เฟสละหนึ่งปี โดยเปิดเฟสแรกที่ 30% , 25% , 25% และ 20% ไล่ตามลำดับไป
ซึ่งทางผู้เรียนและผู้สอนจะได้รับรางวัล จากการเรียนและการสอน หรือเมื่อทำเควสสำเร็จ โดยแจกเป็นไอเทมเหมือนเวลาเล่นเกม เพียงแต่ไอเทมที่แจกมานี้จะเป็นรูปแบบของ NFTs (Non-Fungible Tokens) และสามารถนำไปหารายได้จากการขายไอเทมเหล่านั้นแลกเป็น ANIV Token ได้ ซึ่งในอนาคตต่อไปจะพัฒนาให้สามารถแลกเปลี่ยนกับคริปโตเคอร์เรนซีอื่น ๆ ได้อีกด้วย
หลายคนที่เป็นกังวลเมื่อพูดถึง Metaverse ว่า แล้วอย่างนี้เด็กจะเข้าถึงยากหรือไม่ เพราะอาจต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมทำให้เด็กขาดโอกาสการเข้าถึง ทางคุณพิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ตอบไว้ว่า Metaverse ของ Aniverse เข้าถึงไม่ยากอย่างแน่นอน สามารถใช้ คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตเข้าถึงได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ชุดแว่น VR (Obscura) แต่อย่างใด เพราะ หากเป็นเช่นนั้นเท่ากับเป็นการลดโอกาสการเข้าถึงซึ่งขัดกับหลักความตั้งใจของเรา
นั่นหมายความว่ารูปแบบ Aniverse Metaverse จะเป็นแบบ 2 มิติก่อน และหากเมื่อองค์ประกอบ เทคโนโลยี ทุกอย่างเหมาะสมก็จะทำการปล่อยรูปแบบ 3 มิติเพื่อให้ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของ Aniverse Metaverse มากยิ่งขึ้น