วันนี้ (17 พ.ค. 65) นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานศึกษาทั่วประเทศจะเปิดเทอม On-Site ภาคเรียนที่ 1/2565 ในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ กรมอนามัยขอเน้นย้ำสถานศึกษาปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุกรณีพบผู้ติดเชื้อหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ไม่ปิดชั้นเรียนหรือโรงเรียน สำหรับโรงเรียนประจำ เน้นมาตรการ Sandbox Safety Zone in School (SSS) กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากร เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ เปิดเรียน On-site ปกติ ปฏิบัติตามมาตรการ UP (Universal Prevention) ประเมิน Thai Save Thai (TSC) และเว้นระยะห่างของนักเรียนในห้องเรียนไม่น้อยกว่า 1 เมตร กรณีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จัดการเรียนการสอน ปฏิบัติงาน ทำกิจกรรมใน Quarantine Zone ตามมาตรการ SSS เป็นเวลา 5 วัน และติดตามสังเกตอาการอีก 5 วัน กรณีผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบตามคำแนะนำปัจจุบัน ไม่มีอาการ ไม่แนะนำให้กักกัน สำหรับการตรวจคัดกรองหาเชื้อด้วย ATK ถ้ามีอาการให้ตรวจทันที ถ้าไม่มีอาการให้ตรวจคัดกรองครั้งแรกในวันที่ 5 และตรวจครั้งสุดท้ายในวันที่ 10 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากร เป็นผู้ติดเชื้อ ให้ปฏิบัติดังนี้
1) พิจารณาร่วมกับหน่วยบริการสาธารณสุข แยกกักกันที่โรงเรียน (School Isolation) และพิจารณาร่วมกับหน่วยบริการสาธารณสุขในพื้นที่ หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กรณีไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย จัดการเรียนการสอนได้ตามความเหมาะสม เว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 2 เมตร งดกิจกรรมรวมกลุ่ม เน้นการระบายอากาศ โดยปฏิบัติตาม UP-DMHTA อย่างเคร่งครัด
2) ติดต่อหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ตามระบบงานอนามัยโรงเรียน และ
3) ทำความสะอาดห้องเรียน ชั้นเรียน สถานศึกษาตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และเรียนได้ตามปกติ
“สำหรับโรงเรียนไป – กลับ กรณีนักเรียน ครูหรือบุคลากร เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ เปิดเรียนในพื้นที่สถานศึกษา On-Site ตามปกติ ปฏิบัติตามมาตรการ UP (Universal Prevention) ประเมิน Thai Save Thai (TSC) และเว้นระยะห่างของนักเรียนในห้องเรียน ไม่น้อยกว่า 1 เมตร กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากร เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง กรณีไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ตามแนวทางปัจจุบัน ทั้งมีอาการ และไม่มีอาการ แนะนำให้กักกันตัว เป็นเวลา 5 วัน และติดตามเฝ้าระวังอีก 5 วัน ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบตามคำแนะนำปัจจุบัน ไม่มีอาการ ไม่แนะนำให้กักกัน พิจารณาให้ไปเรียนได้ สำหรับการตรวจคัดกรองหาเชื้อด้วย ATK ถ้ามีอาการให้ตรวจทันที ถ้าไม่มีอาการ ให้ตรวจคัดกรองครั้งแรกในวันที่ 5 และตรวจครั้งสุดท้ายในวันที่ 10 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ กรณีพบนักเรียน ครู หรือบุคลากร เป็นผู้ติดเชื้อให้ปฏิบัติดังนี้
1) แยกกักกันที่บ้าน (Home Isolation) หรือปฏิบัติตามคำแนะนำของสถานบริการสาธารณสุข
2) พิจารณาจัดทำ School Isolation โดยคณะกรรมการสถานศึกษา หน่วยงานสาธารณสุข และคณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัด
3) จัดรูปแบบการเรียนการสอนอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีอาการ และ 4) ทำความสะอาดห้องเรียน ชั้นเรียน สถานศึกษา และเปิดเรียนตามปกติ ทั้งนี้ เน้นย้ำสถานศึกษาจัดการเรียนการสอนอย่างเหมาะสมโดยเว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 2 เมตร สำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และผู้ติดเชื้อ และประสานหน่วยบริการสาธารณสุขตามระบบงานอนามัยโรงเรียน” รองอธิบดีกรมอนามัยกล่าว
Previous Article“อดีตรมว.ศึกษาฯ”แนะควรเลิกบังคับ ชุดนักเรียน และ”ทรงผมนักเรียน”
นักเรียน นักศึกษา
นักเรียน โรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา ศึกษาต่อต่างประเทศ สอบ กิจกรรมและงานต่าง ๆ ของนักศึกษาฯลฯ