(จากซ้ายไปขวา) นางสาวพณัญญา เจริญสวัสดิ์พงศ์ ผู้บริหารด้านธุรกิจและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท วรุณา ประเทศไทย, นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกิตติมศักดิ์ กลุ่มมิตรผล, นายชาทิตย์ ห้วยหงษ์ทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด, คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และ ดร.พรพรรณ ไวทยางกูร ผู้อำนวยการศูนย์ SEAMEO STEM-ED ร่วมในพิธีส่งมอบโมเดลการศึกษาด้านเกษตรอัจฉริยะและครุภัณฑ์โดรนเพื่อการเกษตร
บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ผนึกกำลังพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ ศูนย์ภูมิภาคว่าด้วยสะเต็มศึกษาขององค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAMEO STEM-ED), กลุ่มมิตรผล และกระทรวงศึกษาธิการ ทุ่มงบกว่า 12 ล้านบาท เดินหน้าปั้นโมเดลการศึกษาด้านเกษตรอัจฉริยะ ภายใต้โครงการ สะเต็มศึกษาสู่โลกอาชีพ “STEM Career Academies” ต่อยอดองค์ความรู้และทักษะด้านสะเต็ม พร้อมส่งมอบ “เจ้าเอี้ยง โดรนการเกษตร” นวัตกรรมโดรนเพื่อการเกษตร แก่วิทยาลัยเทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรมชั้นสูงขอนแก่น ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หวังเป็นโมเดลนำร่องสู่การสร้างเกษตรกรนักพัฒนายุคใหม่ (Smart Farmer) เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และขยายผลองค์ความรู้ด้านเกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture) เพื่อยกระดับภาคเกษตรไทยอย่างยั่งยืน
ภาคเกษตรกรรม ถือได้ว่ามีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้และเป็นจุดแข็งของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน โดยประเทศไทยได้รับการขนานนามว่าเป็น “อู่ข้าวอู่น้ำ” เนื่องจากมีความได้เปรียบด้านภูมิประเทศ ทำให้สามารถผลิตสินค้าเกษตรได้หลากหลาย และเพาะปลูกได้ทั้งปี อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันหลากหลายประเทศเริ่มนำองค์ความรู้ด้านเกษตรอัจฉริยะ “Smart Agriculture” ที่ผสานการใช้เทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาวิถีการเกษตรและลดข้อจำกัดในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแรงงาน หรือด้านภูมิประเทศ มาปรับใช้ตามบริบทของแต่ละพื้นที่ ทำให้การแข่งขันด้านการเกษตรระหว่างประเทศท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น เชฟรอนและกลุ่มพันธมิตรจึงได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาองค์ความรู้ให้เยาวชนรุ่นใหม่ที่จะเติบโตในสายงานด้านการเกษตรในอนาคต เพื่อพัฒนากำลังคนและยกระดับองค์ความรู้ด้านเกษตรกรสมัยใหม่ โดยมุ่งต่อยอดโมเดลการศึกษาด้านสะเต็ม พร้อมสนับสนุนนวัตกรรมต่างๆ อาทิ โดรนการเกษตรอัจฉริยะ เพื่อนำไปเสริมองค์ความรู้มุ่งสู่การการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ศูนย์กลางอาหารของโลกในอนาคต
นายชาทิตย์ ห้วยหงษ์ทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ได้กล่าวถึงความมุ่งมั่นของเชฟรอนในการยกระดับองค์ความรู้ด้านการเกษตรว่า “เชฟรอน ในฐานะหนึ่งในบริษัทพลังงานระดับโลก มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์อันมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ โดยเราเชื่อว่าองค์ความรู้และทักษะด้านสะเต็มศึกษาเป็นรากฐานการศึกษาที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจนวัตกรรมของประเทศได้ โดยเกษตรอัจฉริยะเป็นหนึ่งในสาขาอาชีพในโครงการ สะเต็มศึกษาสู่โลกอาชีพ “STEM Career Academies” ที่เรามุ่งพัฒนาและต่อยอดองค์ความรู้ใหม่ๆ ให้เท่าทันโลก ผ่านการขับเคลื่อนการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับ พันธมิตรชั้นนำทางด้านการเกษตร และองค์กรด้านการศึกษาอย่างวิทยาลัยเทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรมชั้นสูงขอนแก่น ที่มุ่งสร้างบุคลากรที่มีความเป็นเลิศด้านเกษตรอุตสาหกรรม และเป็นวิทยาลัยที่เน้นการพัฒนาองค์ความรู้ด้านเกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture) อย่างแท้จริง โดยเราตั้งเป้าร่วมยกระดับโมเดลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของอาชีวศึกษาแบบองค์รวม พร้อมนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และทักษะทางเทคโนโลยีมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ทางการปฏิบัติ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของผู้เรียนอาชีวศึกษาด้านเกษตรอุตสาหกรรมสมัยใหม่ โดยมีเป้าหมายขยายผลสัมฤทธิ์ของโครงการไปในวงกว้าง และนำไปเป็นแม่แบบให้องค์ความรู้ด้านเกษตรสมัยใหม่ทั่วประเทศ เพื่อขับเคลื่อนระบบการศึกษาด้านการเกษตรอัจฉริยะให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งสู่การแข่งขันระดับโลก”
ในการขับเคลื่อนโมเดลระบบการศึกษา ได้เกิดจากการวางรากฐานสะเต็มศึกษา ภายใต้โครงการ “Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต” ซึ่งเป็นความร่วมมือกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชน โดยเน้นพัฒนาทักษะครูให้มีการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ปรับหลักสูตรทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนไปของโลก ตลอดจนจัดหาสื่อการเรียนการสอนที่ส่งเสริมทักษะ ล่าสุดเชฟรอนได้สนับสนุนนวัตกรรมโดรนการเกษตรอัจฉริยะ พัฒนาโดย “เจ้าเอี้ยง โดรนเกษตร” ที่เกิดจากความร่วมมือของ บริษัท ไทย แอดวานซ์ อินโนเวชั่น จำกัด และบริษัท วรุณา (ประเทศไทย) จำกัด (Varuna) ในเครือเออาร์วี (บริษัทย่อยของ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด มหาชน) มาใช้เป็นเครื่องมือส่งเสริมทักษะการนำเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มผลิตภาพและความสามารถในการแข่งขันของเกษตรกรไทย นอกจากนี้ผู้เรียนยังได้มีโอกาสฝึกปฏิบัติจริงในไร่ของมิตรผล เพื่อเรียนรู้การทำไร่แบบโมเดิร์นฟาร์ม (ModernFarm) ในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อทำความเข้าใจกระบวนการทำงานภาคเกษตรอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร โดยมีบุคลากรด้านวิศวกร และการเกษตรจากกลุ่มมิตรผล มาถ่ายทอดองค์ความรู้สมัยใหม่ให้ผู้เรียนได้นำนวัตกรรมดังกล่าวไปพัฒนาตอบโจทย์การเกษตรยุคใหม่สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกิตติมศักดิ์ กลุ่มมิตรผล กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ภาคเกษตรอุตสาหกรรม เป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย การยกระดับภาคการเกษตรจากแบบดั้งเดิมไปสู่เกษตรมูลค่าสูง (High Value) ผ่านการทำให้เป็นเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) และเกษตรแม่นยำ (Precision Farming) เพื่อให้ภาคเกษตรไทย มีความสามารถในการแข่งขัน (Competitiveness) โดยมี คุณภาพและ ประสิทธิภาพสูง และต้นทุนที่แข่งขันได้ ทั้งนี้จะต้องใช้องค์ความรู้ การวิจัยพัฒนา (R&D) นวัตกรรม และเทคโนโลยี ด้วยเหตุดังกล่าวการพัฒนาการศึกษาด้าน วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี จึงมีความสำคัญ
ในฐานะที่กลุ่มมิตรผลเป็นองค์กรที่มุ่งให้การสนับสนุนด้านพัฒนาบุคลากร และเกษตรกรชาวไร่อ้อย ให้มีความรู้และพร้อมต่อยอดการประกอบอาชีพ เพื่อให้เป็นเกษตรสมัยใหม่ จึงได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ให้การสนับสนุนวิทยาลัยเทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรมชั้นสูงขอนแก่น เพื่อจัดทำหลักสูตรเทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ทั้งนี้ ในปี 2565 ได้เปิดสอนสาขาอากาศยานเพื่อการเกษตร (Aviation for Agriculture) ซึ่งเป็นหนึ่งในสาขาที่นำเทคโนโลยีสมัยใหม่ชั้นแนวหน้าแบบครบวงจรมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน โดยกลุ่มมิตรผล ให้การสนับสนุนการพัฒนาครู ครูฝึกในสถานประกอบการ และนักเรียน ในการลงพื้นที่ปฏิบัติจริงในไร่ของมิตรผล เพื่อเรียนรู้การทำไร่แบบโมเดิร์นฟาร์ม (ModernFarm) เพื่อช่วยให้ได้พัฒนาทักษะในพื้นที่จริง เรียนรู้การใช้นวัตกรรมการจัดการไร่อ้อยยุคใหม่ รวมทั้งสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ในการฝึกทักษะ สร้างสมรรถนะ เพื่อสร้างกำลังคนให้มีทักษะในการใช้อากาศยานไร้คนขับในงานเกษตรอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนและยกระดับการศึกษาของประเทศได้อย่างยั่งยืน”
ส่วนด้านนายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า “การส่งเสริมโอกาส พัฒนาศักยภาพการอาชีวศึกษา การฝึกอบรมวิชาชีพระดับฝีมือ เทคนิคและเทคโนโลยี เพื่อยกระดับให้ผู้เรียนอาชีวศึกษามีคุณภาพได้มาตรฐานสากล เป็นภารกิจหลักที่สำคัญของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ในการขับเคลื่อนการผลิตและพัฒนากำลังอาชีวศึกษา ที่ต้องผลิตผู้เรียนให้มีทักษะ และคุณลักษณะที่พร้อมซึ่งจะตอบสนองต่อความต้องการในการผนึกกำลังของภาคส่วนต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ดังนั้น การผสมผสานนวัตกรรมเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะมุ่งเน้นสู่การเกษตรแบบการเพิ่มมูลค่าและความยั่งยืนด้วยการใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรม ตอบโจทย์ทั้งในภาคการผลิตเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น และสอดรับกับการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด”
เลขาธิการ กล่าวต่ออีกว่า ความสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านเกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture) ซึ่งเป็นนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะด้านสะเต็มที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญของการต่อยอดทักษะการสร้างกระบวนการคิดเชิงนวัตกรรมให้กับองค์การการศึกษาและเยาวชนรุ่นใหม่ ได้ศึกษาวิธีการนำเทคโนโลยีมาใช้แก้ปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับเกษตรกร ทั้งนี้ ขอขอบคุณ หน่วยงานและภาคีเครือข่ายภายใต้ความร่วมมือที่มอบนวัตกรรมเพื่อการเกษตร แก่วิทยาลัยเทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรมชั้นสูงขอนแก่น เพื่อเป็นโมเดลนำร่องสู่การสร้างเกษตรกรนักพัฒนายุคใหม่ เป็นการต่อยอดองค์ความรู้ซึ่งเป็นนวัตกรรม และต่อยอดการสร้างกระบวนการคิดนวัตกรรม จึงเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาศักยภาพให้กับครู บุคลากร และผู้เรียน ที่จะยกระดับการเรียนรู้ เพิ่มสมรรถนะ ขีดความสามารถ พัฒนาอาชีวศึกษาสู่ความเป็นเลิศ สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศ ศึกษาวิธีการนำเทคโนโลยีมาใช้แก้ปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับเกษตรกรมากขึ้น
ด้าน คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงบทบาทกระทรวงศึกษาธิการ ในการผลักดันอาชีพด้านการเกษตรว่า “กระทรวงศึกษาธิการตระหนักดีว่าการเกษตรสมัยใหม่ คืออนาคตของประเทศ ดังนั้นเราจึงสนับสนุนการสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ที่มีความรู้ ความสามารถที่เท่ากันการเปลี่ยนแปลงของโลกและเทคโนโลยี เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ เรายังมุ่งส่งเสริมองค์ความรู้ด้าน Smart Agriculture พร้อมยกระดับมาตรฐานบุคลากรด้านการเกษตรตามนโยบายที่ต้องการยกระดับวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี เพื่อรองรับการเติบโตของกลุ่มอาชีพอุตสาหกรรม S-Curve ในภาคการเกษตรให้สอดคล้องกับสังคมโลกในศตวรรษที่ 21”
การผนึกกำลังครั้งล่าสุดกับภาครัฐและภาคเอกชนในการส่งเสริมทักษะอาชีพสาขาการเกษตร ถือเป็นหมุดหมายสำคัญอีกก้าวหนึ่งของโครงการเพื่อปั้นเกษตรกรนักพัฒนารุ่นใหม่ในอนาคต ผ่านการต่อยอดองค์ความรู้ Smart Agriculture ให้เป็นโมเดลออกไปในระดับประเทศ และนำไปต่อยอดปฏิบัติได้จริงในพื้นที่ โดยการส่งมอบองค์ความรู้ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มศักยภาพเชิงเกษตรกรรมของพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ให้ผู้เรียนที่ได้ฟูมฟักและพัฒนาทักษะเกษตรอัจฉริยะขั้นสูง ได้กลับมาพัฒนาการเกษตรในพื้นที่ดังกล่าว และขยายผลองค์ความรู้สู่ระดับประเทศ
ทั้งนี้ โครงการพัฒนาโมเดลสะเต็มศึกษาสู่โลกอาชีพ หรือ STEM Career Academies ของ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต” ที่ได้ดำเนินโครงการฯ มาเป็นเวลา 8 ปี ซึ่ง STEM Career Academies เป็นโครงการในระยะที่สองที่ดำเนินการโดยเชื่อมโยงกับนโยบายของรัฐบาล โดยมีศูนย์ภูมิภาคว่าด้วยสะเต็มศึกษาขององค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAMEO STEM-ED) ร่วมพัฒนาและบริหารโครงการดังกล่าวตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2563 อีกทั้งยังตั้งใจพัฒนาสะเต็มศึกษาอย่างเต็มที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อมอบโอกาส รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตและการศึกษาของเยาวชนผู้ที่จะเติบโตเป็นอนาคตของประเทศ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้มุ่งพัฒนา 4 กลุ่มอาชีพสำคัญ ทั้งด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ด้านคอมพิวเตอร์ ไอที การศึกษา และเกษตรอัจฉริยะ เพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพ พร้อมพัฒนาครูและบุคลากรทั้ง Ecosystem ของการศึกษา ในการสร้างรากฐานอันแข็งแกร่งเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยอย่างยั่งยืน