หลังจากเรียนที่ Shrewsbury International School Bangkok Riverside – SHB มานานกว่า 15 ปี ต้ังแต่ Early Years 1 จนถึง Year 13 ในอนาคตอันใกล้ พี่น้องแฝดสามแห่ง ครอบครัวกิจโอฬาร กำลังก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก แพม – พรนภัส กิจโอฬาร กําลัง เตรียมตัวไปศึกษาต่อด้านดนตรีที่ The Royal Northern College of Music (RNCM) ส่วน พูม – พิทธวัฒน์ ได้รับการตอบรับให้ศึกษาต่อด้าน Computer Sciences ที่ University College London (UCL) และ และ พัท – ภาสกร เตรียมเข้าเรียนวิชาการบริหารจัดการ (Management) ที่ London School of Economics and Political Science (LSE) คีย์ความสำเร็จคืออะไร HELLO! Education พาไปถอดชีวิตการเรียนของทั้ง 3 คน
หาแพชชั่นให้เจอ
ตัวแปรที่มีส่วนสำคัญอย่างมากในความสำเร็จของทั้ง 3 คนคือการค้นพบ ‘แพชชั่น’ หรือสิ่งที่ชอบตั้งแต่เด็ก แพม เล่าว่า “แพมตกหลุมรักดนตรีต้ังแต่ยังเด็กแล้วค่ะ และการได้รับโอกาสจากทางโรงเรียนให้แสดงดนตรีทําให้แพมพบโลก ของตัวเอง แพมรู้สึกว่าดนตรีเป็นบางสิ่งบางอย่างที่พิเศษ สําหรับตัวแพม ดังน้ันจึงเป็นเหตุผลว่าทําไมหลังจบจาก Shrewsbury แล้ว แพมจึงอยากเรียนด้านดนตรีต่ออีกค่ะ”
ส่วน พูม บอกว่า “การที่ผมมีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันที่เกี่ยวกับ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ (Computer Sciences) กลายเป็นช่องทางที่เปิดให้ผม ได้สํารวจความชอบของตัวเองเพิ่มมากขึ้น แถมการเข้าร่วมการแข่งขันหรือกิจกรรมต่างๆ ยังทําให้ผมเก็บเกี่ยว ประสบการณ์ที่เชื่อมโยงสู่เส้นทางที่ยิ่งทําให้ผมค้นพบตัวเองมากขึ้นครับ”
โรงเรียนจัดเตรียมกิจกรรมที่แตกต่างหลากหลาย ครอบคลุมท้ังทางด้านวิชาการ ดนตรี และกีฬา โดยมี ครูและเจ้าหน้าที่คอยดูแล และถ้าคนไหนทําได้ดี ทางโรงเรียนก็พร้อมจะผลักดัน ทําให้ผมกับเพื่อนๆ มีโอกาสลองทําสิ่งต่างๆ ที่ไม่เคยทํามากมาย”
พูมเล่าประสบการณ์ในรั้วโรงเรียน
ได้รับคำแนะนำที่ดีจากครู
นอกเหนือจากโอกาสในการเรียนและการได้ลงมือทํา กิจกรรมต่าง ๆ ในแบบที่แต่ละคนอยากทําได้อย่างเต็มที่แล้ว ทั้ง แพม พูม และพัท ยังเห็นตรงกันอีกด้วยว่า การจะเป็นนักเรียนที่ชื่นชอบการเรียนได้ บทบาทของ ‘ครู’ มี ความสําคัญที่สุด “สําหรับแพม ครูไม่ใช่แค่คนที่ให้ความรู้ด้านวิชาการ หรือสอนดนตรีหนูเท่าน้ัน แต่ยังเป็นคนที่คอยแนะนํา ทักษะในการใช้ชีวิตให้แพมด้วยค่ะ” แพม กล่าว
เช่นเดียวกับ พูม ที่อธิบายเพิ่มเติมว่าครูเป็นผู้ที่คอยกระตุ้น ให้เขาคิดนอกกรอบ และทําให้เรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ ใน แนวทางที่แตกต่างออกไป และ พัท ปิดท้ายว่า ครูคือผู้ที่ คอยชี้แนะแนวทางความรู้ทุก ๆ ด้านให้แก่ตนเอง “ครูของผมช่วยให้ผมเข้าใจเส้นทางใหม่ ๆ ท้ังในด้าน วิชาการและด้านการใช้ชีวิต ประกอบกับการได้ใช้เวลา ร่วมกับเพ่ือนๆ ทําให้ชีวิตในร้ัวโรงเรียนของเราสามคน กลายเป็นความทรงจําที่มีค่าที่ไม่มีอะไรทดแทนได้ครับ”
สภาพแวดล้อม
ยิ่งไปกว่านั้น ‘สภาพแวดล้อม’ ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เป็นสิ่งสําคัญที่หล่อหลอมให้ค้นพบเส้นทางการเรียนรู้ที่เป็นของตัวเองอย่างแท้จริง พูม บอกว่า “การที่โรงเรียนสนับสนุนให้เด็กทํากิจกรรม ทําให้พวกเรามีมุมมองแนวคิดเกี่ยวกับการแข่งขันในเชิงบวก คือมองว่าทุกคนเป็นเพื่อนที่จะแข่งกันเพื่อพัฒนา ตัวเองไปให้ถึงขีดสุดความสามารถของแต่ละคน”
ส่วน แพม ต่อยอดว่า “นอกจากพื้นที่และเวทีที่ โรงเรียนจัดหาให้แพมได้ฝึกฝนขัดเกลาทักษะฝีมือ ด้านเปียโนแล้ว สิ่งที่โรงเรียนให้อีกอย่างก็คือทักษะ ภาษาอังกฤษ ซึ่งถือเป็นกุญแจที่จะไขประตูแห่ง โอกาสในการเรียนรู้โลกกว้างภายนอกค่ะ”
ก่อน พัท ขยายเพิ่มเติมว่า “โรงเรียนให้การสนับสนุนในทุกด้านเท่าที่เส้นทางอาชีพของคนคนหนึ่งจะต้องการ และเป็นพื้นที่แห่งโอกาสที่จะได้สั่งสม ประสบการณ์และค้นพบสิ่งที่ดีที่สุด ในการต่อยอดเส้นทางอาชีพของตนเองในอนาคต”
นี่คือคีย์สำคัญและเป็น Lifelong Learning Pathways ของฝาแฝดท้ังสาม ที่ช่วยให้พวกเขาสามารถใช้ทักษะนี้ในการดํารงชีวิตต่อไป แม้จะจบจาก Shrewsbury International School Bangkok Riverside ไปแล้วก็ตาม.