วันพฤหัสบดี ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567, 21.23 น.
ตำรวจไซเบอร์แถลงปฏิบัติการทลาย 2 เครือข่าย”นักล่าปริญญา” ปลอมวุฒิการศึกษาส่งขายออนไลน์ เผยสถานศึกษาชื่อดังโดนกันเพียบ มีให้เลือกได้ตั้งแต่ ม.3 กศน.-ปริญาโท สนนราคาตั้งแต่ใบละ 1,200 บาทถึง 9,000 บาท พบเนียนกริบใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงเสร็จ หากไม่ใช่เจ้าของสถาบันหรือผู้เชี่ยวชาญจะไม่สามารถแยกความแตกต่างของวุฒิการศึกษานั้นได้ว่าเป็นของจริงหรือปลอม เจ้าสารภาพมีลูกค้าสนใจสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก ไม่ต่ำกว่า 300 ราย ฟันรายได้เดือนละกว่า 4 หมื่นบาท เงินหมุนเวียน 4 ล้านบาทต่อปี
29 ก.พ.67 ที่ บช.สอท. โดย พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 และ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ร่วมกับ ผศ.ดร.พนมพัทธ์ สมิตานนท์ รักษาการแทนอธิบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว “Cyber Hunter Operation” กรณี “ตำรวจไซเบอร์ทลาย 2 เครือข่าย ปลอมวุฒิการศึกษาส่งขายออนไลน์สถานศึกษาชื่อดังโดนกันเพียบ”
สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ได้รับเบาะแสว่ามีผู้เปิดรับทำวุฒิการศึกษาปลอมส่งขายออนไลน์ผ่านโซเชียล พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเร่งสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว เพื่อเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถขออำนาจศาลออกหมายค้นเป้าหมายได้ นำมาสู่ปฏิบัติการตรวจค้นจำนวน 2 ปฏิบัติการ ได้แก่
รวบอดีตสาวประกันภัย ผันตัวทำวุฒิการศึกษาปลอมส่งขายออนไลน์ อ้างมหาวิทยาลัยดังเพียบ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้รับเบาะแสว่ามีผู้รับทำเอกสารทางราชการปลอมแล้วจำหน่ายทางออนไลน์ โดยทำการสืบสวนติดตามผู้ใช้งานบัญชีเฟซบุ๊ก และผู้ใช้งานบัญชี Line OA “มูลนิธิศึกษา” มีพฤติการณ์ในการรับทำวุฒิการศึกษา และ ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน (แบบ ป.4) ปลอม จึงได้ให้สายลับทดลองสั่งทำวุฒิการศึกษาระดับชั้น มัธยมศึกษาปี 6 ปลอม ในราคา 2,500 บาท จนพิสูจน์ทราบแน่ชัดว่ามีการปลอมเอกสารราชการแล้วจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์จริง
ต่อมา พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 และ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.5 ร่วมนำหมายค้นศาลจังหวัดสงขลา ที่ ค.29/2567 เข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 5 ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา พบ น.ส.วันดี อายุ 31 ปี อาศัยอยู่ภายในบ้าน ผลการตรวจค้นพบวุฒิการศึกษาปลอม ที่มีผู้สั่งทำไว้จำนวน 29 ราย
โดยพบว่ามีเอกสารวุฒิปริญญาตรีปลอมทั้งมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนชื่อดังมากมาย เช่น หาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยรามคำแหง, มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, มหาวิทยาลัยศิลปากร, มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, มหาวิทยาลัยพิษณุโลก, มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี, มหาวิทยาลัยหอการค้า, มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตเป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีวุฒิปลอมทั้งระดับ ปวส. และ ปวช. อาทิ วิทยาลัยพาณิชการบางนา, วิทยาลัยเทคโนโลยีทักษิณาบริหารธุรกิจ, วิทยาลัยเทคนิคน้ำพอง, วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก, วิทยาลัยพาณิชการบางนา, วิทยาลัยเทคโนโลยีหมู่บ้านครู, วิทยาลัยเทคนิคสุโขทัย เป็นต้น
ในส่วนของใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน หรือ (แบบ ป.4) ปลอม พบจำนวน 4 ใบ ได้แก่ ขนาดอาวุธปืน .38 จำนวน 3 ใบ และขนาด .22 จำนวน 1 ใบ และของกลางอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด รวมทั้งสิ้น 12 รายการ
เบื้องต้น น.ส.วันดีฯ รับว่าตนเองนั้นเป็นคนทำวุฒิการศึกษาปลอมจริง ซึ่งมีผู้สนใจติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนมาก จากนั้น น.ส.วันดีฯ ก็จะให้ผู้ติดต่อแอดบัญชี Line OA ชื่อ “มูลนิธิศึกษา” ซึ่งตนเองนั้นเป็นแอดมิน โดยตนนั้นรับทำวุฒิการศึกษาระดับ ม.ต้น ในราคา 2,500 บาท, ม.ปลาย ในราคา 3,700 บาท, ปวช. ในราคา 4,000 บาท, ปวส. ในราคา ราคา 4,800 บาท และปริญญาตรีในราคา 9,000 บาท
น.ส.วันดี ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ตนเคยทำงานเป็นตัวแทนบริษัทประกันชีวิตมาก่อน แต่ด้วยเคยจบการศึกษาระดับชั้น ปวส. จากสถาบันชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.สงขลา จึงทำให้มีความเชี่ยวชาญในการใช้โปรแกรม Photoshop และ Microsoft Word จึงเปลี่ยนอาชีพมาเริ่มผลิตวุฒิปลอมตั้งแต่เดือน ต.ค.65 ถึงปัจจุบัน
โดยในช่วงแรกเมื่อรับออเดอร์ลูกค้าแล้ว จะส่งงานให้แก่เพจอื่นที่มีการรับทำวุฒิการศึกษาปลอม เพื่อรับส่วนต่าง ต่อมาภายหลังจึงได้เริ่มทดลองทำเองด้วยตนเอง โดยหารูปแบบของการจัดทำวุฒิการศึกษา, ตราสัญลักษณ์ของสถาบันการศึกษา และรายวิชาการศึกษา จากอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีลูกค้ากว่า 300 ราย ที่เคยซื้อวุฒิการศึกษาปลอม จาก น.ส.วันดีฯ ส่วนกรณีใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน หรือ แบบ ป.4 มีลูกค้าสั่งจริง แต่ยังไม่ได้มีการชำระเงินและจัดส่งแต่อย่างใด โดยตนสามารถทำรายได้กว่า 40,000 บาท ต่อเดือน
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา 1.ทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใดๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง 2.ปลอมเอกสารราชการ และ 3.โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน พร้อมตรวจยึดของกลางทั้งหมด และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
และอีกปฏิบัติการ ได้แก่ ล้างบางเครือข่าย “นักศึกษา-นักล่าปริญญา” ปลอมวุฒิการศึกษาส่งขายออนไลน์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.2 ได้รับเบาะแสว่ามีผู้สร้างบัญชีเฟซบุ๊กเพจ ชื่อ “นักศึกษา-นักล่าปริญญา” มีพฤติการณ์โฆษณารับทำเอกสารวุฒิการศึกษาปลอมผ่านโซเชียล โดยประกาศรับทำเอกสารวุฒิการศึกษาในระดับต่างๆ หากมีผู้สนใจก็จะให้แอดไลน์ตามไอดีที่ให้ไว้ในหน้าเพจ โดยใช้บัญชีไลน์ชื่อ “เอกสารสำหรับสมัครงาน” ในการติดต่อ มีอัตราค่าจัดทำเอกสารวุฒิการศึกษาปลอม ดังนี้ ระดับ ม.3 (กศน.) ราคา 1,200 บาท, ม.6 (กศน.) ราคา 1,800 บาท, ม.3 (สามัญ) ราคา 2,000 บาท, ม.6 (สามัญ) ราคา 2,500 บาท, ปวช. ราคา 2,500 บาท, ปวส. ราคา 3,500 บาท, ปริญญาตรี ราคา 6,000 บาท และ ปริญญาโท ราคา 7,000 บาท
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบสวนจนทราบว่า เจ้าของบัญชีเพจและไลน์ดังกล่าว คือ นายศุภณัฐ ซึ่งเป็นผู้รับออเดอร์การผลิต แล้วส่งออเดอร์ต่อให้นายณัฐชัชวิทย์ เป็นผู้ผลิตเอกสารปลอม โดยให้ลูกค้าโอนเงินผ่านบัญชีม้าจำนวน 2 บัญชี
เมื่อลูกค้าตกลงทำเอกสารปลอมแล้ว นายศุภณัฐฯ จะให้ลูกค้าแจ้งข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ พร้อมรูปถ่ายหน้าตรง เพื่อใช้ในการทำวุฒิการศึกษา จากนั้นจะส่งข้อมูลให้แก่นายณัฐชัชวิทย์ เพื่อผลิตผลงาน มักใช้เวลาในการทำเอกสารปลอมประมาณ 1 ชั่วโมง หากเสร็จแล้วจะส่งไฟล์รูปภาพตัวอย่างของเอกสารปลอมให้ลูกค้าตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นจะส่งหมายเลขบัญชีธนาคารของบัญชีม้า เพื่อให้ลูกค้าชำระค่าบริการ แล้วค่อยส่งไฟล์เอกสารวุฒิการศึกษาปลอมที่สำเร็จแล้ว ให้แก่ลูกค้าในรูปแบบไฟล์ pdf จำนวน 2 ไฟล์ (ด้านหน้าและด้านหลัง) ผ่านทางไลน์ดังกล่าว
กรณีนี้ พบว่าผู้ก่อเหตุได้ศึกษาใบวุฒิของแต่ละสถาบันไว้อย่างละเอียด หากไม่ใช่เจ้าของสถาบันหรือผู้เชี่ยวชาญจะไม่สามารถแยกความแตกต่างของวุฒิการศึกษานั้นได้ ว่าเป็นของจริงหรือปลอม ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุยังมีการคำนวณปีที่จบการศึกษากับอายุของผู้ที่ต้องการวุฒิการศึกษาปลอม เพื่อไม่ให้เกิดข้อพิรุธที่ขัดแย้งกับอายุของผู้สำเร็จการศึกษาอีกด้วย
ต่อมา พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.2 รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายค้นและหมายจับผู้เกี่ยวข้อง โดยเข้าตรวจพื้นที่เป้าหมายจำนวน 2 จุด และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ยกแก๊ง จำนวน 4 ราย ดังนี้
1. ตรวจค้นบ้านพักนาย นายศุภณัฐ แอดมินเพจและเจ้าของบัญชีไลน์ ในพื้นที่ ซอยเดชอุดม 20/4 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผลการตรวจค้นพบเอกสารที่เกี่ยวข้องในการใช้กระทำความผิดหลายรายการ รวมทั้งเอกสารวุฒิการศึกษาปลอมอีกกว่า 70 ฉบับ
2. ตรวจค้นบ้านพักนายณัฐชัชวิทย์ ผู้ลงมือผลิตเอกสารวุฒิการศึกษาปลอม ในพื้นที่หมู่ 2 ต.โนนห้อม อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี ผลการตรวจค้นพบเอกสารและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในการใช้กระทำความผิด จำนวน 15 รายการ
3. จับกุมนางสาวคุณารัตน์ อายุ 53 ปี เจ้าของบัญชีม้า โดยควบคุมตัวได้บริเวณหน้าบริษัทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ต.บางปูใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ
4. จับกุมนายวัชระ อายุ 23 ปี เจ้าของบัญชีม้า โดยควบคุมตัวได้บริเวณหน้าบ้านพัก ในพื้นที่ หมู่ 2 ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ในฐานความผิด “ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารราชการ ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา”
ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุเผยว่า การผลิตเอกสารปลอมดังกล่าว สามารถสร้างรายได้สูงถึงประมาณ 300,000 – 400,000 บาทต่อเดือน ทำให้มีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 4,000,000 บาท ต่อปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป