วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ถูกสถาปนาก่อตั้งมาเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ของ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยรังสิต โดยปัจจุบันได้รับการสานต่อมาถึง ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ อธิการบดีคนปัจจุบัน
ปัจจุบันวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ได้มีหลักสูตรปริญญาตรี 3 หลักสูตร คือ หลักสูตรแพทย์แผนไทย บัณฑิต หลักสูตรแพทย์แผนจีนบัณฑิต และหลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิตสาขาการแพทย์แผนตะวันออก
ซึ่งในปัจจุบันทั้ง 3 หลักสูตรข้างต้น ได้มีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องภายใต้สภาวิชาชีพตามกฎหมาย ทำให้การเรียนการสอนในด้านการแพทย์ตะวันออก ซึ่งรวมทั้งการแพทย์แผนไทย และการแพทย์แผนจีน นอกจากจะต้องมีความรู้สืบสานภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษแล้ว ยังจะต้องมีผลลัพธ์ทางการเรียนการสอนในด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพมากขึ้นด้วย ทำให้การแพทย์กลุ่มนี้ได้เรียนทั้งสรีระวิทยา กายวิภาค และทางด้านเภสัชแผนปัจจุบัน ฯลฯ ความรู้เหล่านี้ ได้มาเป็นส่วนสำคัญบูรณาการความรู้ วิจัย และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ในปัจจุบันการแพทย์แผนจีน และการแพทย์แผนไทย ได้รับการยอมรับมากขึ้นในวงการแพทย์แผนปัจจุบัน จนในปีที่ผ่านมาคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา ได้ออกประกาศมาตรฐานคุณวุฒิแพทย์ศาสตร์บัณฑิตฉบับใหม่ ให้แม้กระทั่งนักศึกษาแพทย์แผนปัจจุบันจะต้องมีผลลัพธ์การเรียนรู้แพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกด้วย
นั่นก็เพราะว่าตลาดสมุนไพร การแพทย์แผนไทย และการแพทย์แผนจีน การแพทย์อายุรเวท ได้รับการยอมรับมากขึ้นจากผู้บริโภค
โดยจากข้อมูลของ Euromonitor พบว่า การค้าปลีกผลิตภัณฑ์สมุนไพรทั่วโลกในปี พ.ศ. 2564 มีมูลค่า 54,960 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท) โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีมูลค่าการค้าปลีกผลิตภัณฑ์สมุนไพรสูงที่สุด เป็นอันดับ 1 มีมูลค่าสูงถึง 31,930 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท)
ในขณะที่ตลาดของผลิตภัณฑ์สมุนไพรในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2564 มีมูลค่าสูงถึง 45,640 ล้านบาท นอกจากนั้นประเทศไทยมีการ “ส่งออกวัตถุดิบสมุนไพรคุณภาพและผลิตภัณฑ์สมุนไพร” เป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 12,211 ล้านบาท และกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าในปี พ.ศ. 2569 มูลค่าตลาดสมุนไพรในประเทศไทยจะมีมูลค่ามากถึง 59,500 ล้านบาท
โดยหลักสูตรที่กำลังได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปที่จบมัธยมศึกษาปีที่ 3 ขึ้นไป โดยไม่จำกัดอายุ ก็คือ หลักสูตรประกาศนียบัตรการแพทย์แผนไทย ของวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เรียนเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ เป็นเวลา 3 ปี แม้จะไม่ได้ปริญญาบัตรใดๆ แต่ได้สิทธิในการสอบใบประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ซึ่งจะได้เรียนจากการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ คลินิกในระดับมหาวิทยาลัยที่ได้มาตรฐานสูง
ภายใต้หลักคิดที่ว่า “จากภูมิปัญญา พัฒนาสู่สากล“
ทั้งนี้เมื่อได้ใบประกอบวิชาชีพแล้ว สามารถเป็นแพทย์แผนไทยได้ สามารถเปิดคลินิกการแพทย์แผนไทยให้การรักษาผู้ป่วยได้ เปิดร้านขายยาสมุนไพรได้ ซึ่งก็จะได้เรียนในเรื่องผลิตภัณฑ์กัญชาด้วยเช่นกัน ซึ่งปรากฏว่าผู้ที่เรียนจบหลักสูตร มีอัตราการสอบได้ใบประกอบวิชาชีพสูงกว่าโรงเรียนการแพทย์แผนไทยทั่วไปอีกด้วย
ตัวอย่างเช่น ในปี 2566 ผลการสอบผ่านใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแผนไทยภาคทฤษฎีประเภทหลักสูตรประกาศนียบัตรเพื่อเป็นหมอแผนไทยทั่วประเทศสอบผ่านประมาณ 45% แต่ผู้ที่เรียนหลักสูตรนี้รุ่นที่ 2 ของวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ของมหาวิทยาลัยรังสิตมีอัตราการสอบผ่านใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแผนไทยสูงถึง 73% อันสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพการเรียนการสอนการแพทย์แผนไทยที่ได้มาตรฐานกว่าค่าเฉลี่ย
และมากไปกว่านั้นในปี 2566 เมื่อมีการสอบ “ภาคปฏิบัติ” ปรากฏว่านักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรการแพทย์แผนไทย ของวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต สามารถสอบผ่านทั้งใบประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมไทย 100% (เปิดร้านขายสมุนไพรได้) และสอบผ่านใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมไทยได้ 100% เช่นกัน (สามารถเป็นแพทย์แผนไทยสามารถเปิดคลินิกการแพทย์แผนไทยได้)
สรุปจุดเด่นของหลักสูตรประกาศนียบัตรการแพทย์แผนไทย ของวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ต่างจากการเรียนการสอนที่อื่นคือ
1.ได้ใช้อุปกรณ์และห้องแลปในระดับมหาวิทยาลัย เพิ่มทักษะในการต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร
2.มีการเรียนการสอนผสมผสานระหว่างอาจารย์ด้านการแพทย์แผนไทยที่มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์สุขภาพในมหาวิทยาลัย ผสมผสานกับอาจารย์ที่เป็นผู้มีประสบการณ์ในโรงงานและคลินิกการแพทย์แผนไทยจริง
3.ได้ประกาศนียบัตรของมหาวิทยาลัยรังสิต ตรามหาวิทยาลัยรังสิต ไม่ว่าจะจบการศึกษาจากที่ใดและสาขาใดมาก่อนก็ตาม
4.ได้เครือข่ายของนักเรียนที่มีความสัมพันธ์ที่ดี สามารถช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างอบอุ่นทั้งในระหว่างการเรียนและการทำธุรกิจหลังจบการศึกษา
5.อัตราการสอบใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมไทยทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติผ่านอยู่ในระดับสูงกว่ามาตรฐาน
โดยเมื่อจบปีที่ 2 จะได้สิทธิ์สอบใบประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมไทย และเมื่อจบปีที่ 3 จะได้สิทธิ์ในการสอบวิชาชีพเวชกรรมไทย
หลักสูตรนี้จะสามารถตอบโจทย์ สำหรับผู้ที่ทำงานแล้ว และต้องการจะเป็นผู้ประกอบการที่ต้องการต่อยอดธุรกิจด้าน การแพทย์แผนไทย, คลินิกแพทย์แผนไทย, ไทยเวลเนส คลินิก, พัฒนาต่อยอดความรู้เป็นผลิตภัณฑ์ตำรับยา, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, เครื่องสำอางค์ที่มาจากสมุนไพร, กัญชาทางการแพทย์ และการวิจัยพัฒนายาและผลิตภัณฑ์สมุนไพร ฯลฯ
ใครสนใจรีบสมัครด่วน รับจำนวนจำกัด โดยจะรับสมัครถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 เท่านั้น
ติดต่อได้ที่วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ติดต่อได้ที่ Line id: @188rzbz โทร. 0897705862
ด้วยความปรารถนาดี
ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
8 เมษายน 2567
https://www.facebook.com/100044511276276/posts/955861975907503/?