สพฐ. กำชับโรงเรียนช่วยเหลือผู้ปกครองผ่อนปรนค่าบำรุงการศึกษา ย้ำเด็กที่เรียนจบต้องได้เอกสารการจบทุกคน
วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย รองโฆษกสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองโฆษก สพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) ได้มอบหมายให้ติดตามประเด็นที่มีผู้ปกครองค้างชำระเงินบำรุงการศึกษากับโรงเรียน และมีกระแสข่าวว่าผู้ปกครองต้องชำระหนี้ก่อน มิฉะนั้นโรงเรียนจะไม่ออกใบรับรองผลการเรียน (Transcript) หรือเลื่อนชั้นให้นักเรียน นั้น
.
นางภัทริยาวรรณ กล่าวว่า สพฐ. ได้รับทราบประเด็นดังกล่าวและไม่ได้นิ่งนอนใจ ด้วยระยะนี้มีผู้ปกครองและนักเรียนแจ้งความเดือดร้อนในเรื่องดังกล่าวเข้ามา ทำให้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศธ. รวมถึง ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. ซึ่งมีความห่วงใยนักเรียนและผู้ปกครองที่กำลังประสบความเดือดร้อน ได้มอบหมายให้ สพฐ. ชี้แจงทำความเข้าใจว่า ตามที่ได้มีระเบียบกำหนดให้โรงเรียนสามารถเก็บเงินบำรุงการศึกษาได้นั้น ในภาวะที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ปกครองประสบปัญหาค้างชำระค่าใช้จ่ายกับทางโรงเรียน สพฐ. จึงได้แจ้งแนวทางการผ่อนปรนช่วยเหลือไปแล้วตามหนังสือที่ ศธ. 14006/ว769 ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 เรื่องแนวทางการเก็บเงินบำรุงการศึกษาของสถานศึกษา และปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเก็บเงินบำรุงการศึกษาของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมา หากมีกรณีนักเรียนที่ค้างชำระค่าใช้จ่ายกับโรงเรียน ทาง สพฐ. ได้มีการประสานและติดตามเรื่องการพิจารณาผ่อนชำระค่าใช้จ่ายกับทางโรงเรียนได้ โดยคำนึงถึงการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนพร้อมทั้งลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง และเห็นแก่ประโยชน์ของนักเรียนเป็นสำคัญ
.
“ทั้งนี้ หากผู้ปกครองมีความจำเป็นไม่สามารถชำระเงินได้ตามเงื่อนไข ขอให้ประสานขอความช่วยเหลือและผ่อนปรนจากโรงเรียนได้ และ สพฐ. ขอยืนยันว่าเด็กทุกคนที่จบการศึกษาต้องได้รับเอกสารการจบและได้ศึกษาต่อ หากผู้ปกครองท่านใดมีความกังวลต่อปัญหาดังกล่าวสามารถติดต่อ ผอ.โรงเรียน โดยตรง หรือติดต่อ สพป. และ สพม. โดยด่วน ด้วยความห่วงใยจากกระทรวงศึกษา และ สพฐ. เพื่อช่วยเเบ่งเบา ลดภาระผู้ปกครอง และเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้กับนักเรียนทุกระดับชั้น ตามนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ให้นักเรียนได้จบการศึกษาและได้เรียนต่อ พร้อมทั้งให้ สพป. และ สพม. ติดตามกำกับให้ทุกโรงเรียนดำเนินการโดยเร่งด่วน ต่อไป” รองโฆษก สพฐ.
- Line